top of page
327304.jpg

ตลาดเกิดใหม่อันตราย!! กบข.ปรับพอร์ตลดเสี่ยง สร้างผลงานปี 60 โตต่อเนื่อง


“ปี 2559 เป็นปีที่ไม่ง่ายเลย ส่วนปี 2560 ยังเป็นปีที่ต้องระวังอยู่และจะไม่ไปเร็ว เน้นลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกตามสถานการณ์ปี 2560 ที่จะยังไม่นิ่งโดยเฉพาะปัจจัยต่างประเทศ”

นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข.

กล่าวถึงการดำเนินปี 2559 ที่กำลังจะจบปีว่า เป็นปีที่ไม่ง่ายเลยในการทำงานสร้างผลตอบแทนให้กับสมาชิก เนื่องจากสถานการณ์การลงทุนค่อนข้างผันผวนสวิงสวายขึ้นลงมาตลอดทั้งปี ทั้งที่เป็นปัจจัยภายนอกประเทศและภายในประเทศ

“ในส่วนของปัจจัยภายนอกประเทศนั้นเป็นที่ทราบดีว่า ปี 2559 เป็นปีที่มีข่าวเข้ามาเยอะมาก ประเดิมด้วยการประกาศใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบของญี่ปุ่น และยังมีกรณี Brexit มาจนกระทั่งถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่อเมริกา ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่พลิกความคาดหมายจากที่นักลงทุนส่วนใหญ่ประเมินกันเอาไว้ ซึ่งทั้งปี 2559 เศรษฐกิจของโลกก็ไม่ใช่ว่าจะดีนัก แม้ไม่ต่ำแต่ก็ไม่ได้สูง โดยจีดีพีโลกปี 2559 จะอยู่ที่ 3.3% โดย GDP สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ร้อยละ 2.2 จากการบริโภคและจากการเร่งจ้างงาน ส่วนสหภาพยุโรปอยู่ที่ร้อยละ 1.5 เป็นผลจากความกังวลด้านการเมืองและ BREXIT ในขณะที่ญี่ปุ่นอยู่ที่ร้อยละ 0.5 เป็นผลจากนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่ชัดเจน

ส่วนภายในประเทศไทย มีข่าวที่เข้ามามีผลต่อการตัดสินใจลงทุนตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาพอสมควร โดยมีกำลังผลักจากนโยบายของรัฐบาลเข้ามาหนุน นอกจากนี้เรื่องของกำลังซื้อที่หดตัวลงมามากก็เริ่มกลับมาบ้างบางส่วนแล้ว ภาคการท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญก็เริ่มโตนิดหน่อยถือว่า เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง คาดการณ์ GDP อยู่ที่ 3.2% ถือว่าไม่มากแต่ก็ค่อยๆ ฟื้นตัว”

อย่างไรก็ตามภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว กบข.สามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้เป็นที่น่าพอใจ โดยยังคงเติบโตขึ้นสูงกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2559 สินทรัพย์สุทธิของกองทุนฯ มีมูลค่า 757,950 ล้านบาท แบ่งเป็น กองทุนส่วนของสมาชิก 355,444 ล้านบาท กองทุนส่วนสำรอง 402,506 ล้านบาท ขณะที่อัตราผลตอบแทน ณ 25 พฤศจิกายน 2559 อยู่ที่ 4.81% คิดเป็นอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตั้งแต่ตั้งกองทุนอยู่ที่ 6.62%

เลขาฯ สมบัติ แจกแจงว่า ในปี 2559 กบข.นับว่าประสบความสำเร็จตามแผนงานที่ตั้งเป้าไว้ คือ เอาชนะเงินเฟ้อได้ อย่างน้อย 2% ซึ่งสามารถทำได้กว่า 3% และสามารถชนะเงินฝากได้มากกว่า 3.6%

“เหตุที่ยังมีผลตอบแทนที่ดีในภาวะความผันผวนตลอดปี 2559 นี้ เพราะหลักการของ ทีม กบข. คือ 1.เรามีความระมัดระวัง 2. มีการกระจายการลงทุนที่ดีในหลายประเภท โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนในหุ้นนั้น แม้หุ้นไทยมีความผันผวนแต่ก็ได้ผลตอบแทนที่ดีพอสมควร น่าพอใจ”

ทั้งนี้ การกระจายการลงทุนของ กบข. เป็นไปตามหลักเกณฑ์คือ ต้องลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง 60% ซึ่ง ณ 25 พฤศจิกายน 2559 กบข.ได้ลงทุนในตราสารหนี้ไทยประมาณ 62% ส่วนที่เหลือ กบข.กระจายลงทุนใน ตราสารหนี้โลก 3% ตราสารทุนโลก 14%(คิดเป็นเงินประมาณ 5 หมื่นล้านบาท) และตราสารทุนไทย 7% (คิดเป็นเงินลงทุนราว 2.5 หมื่นล้านบาท) และสินทรัพย์ทางเลือกอื่นอีกประมาณ 15%

“ในส่วนที่ลงทุนในตราสารหนี้ไทยนั้น นับว่าเป็นเรื่องดีที่เฉลี่ยอายุของตราสารหนี้ที่ถืออยู่อายุไม่ยาวมาก จึงไม่ได้รับผลกระทบหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของผลตอบแทนตราสารหนี้หลังจากที่ ทรัมป์ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา

ส่วนที่ ลงทุนในตราสารทุน หรือ ในตลาดหุ้นนั้น ค่อนข้างได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีและไม่มีข้อน่ากังวล เนื่องจากมีการพิจารณาการลงทุนอย่างเหมาะสม และเป็นสัดส่วนการลงทุนที่ไม่ได้มาก คือเพียง 7% อีกทั้งยังมีการคาดหมายแนวโน้มหุ้นไทยว่าจะยังอยู่ในระดับที่ดี และน่าจะได้เห็นดัชนี 1,600 จุดได้ จากสถานการณ์ของไทยที่มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีการเลือกตั้งที่ก่อนหน้านี้เคยถูกจับตามองอยู่”

เลขาธิการ กบข. ยังกล่าวเสริมว่า สำหรับปีหน้า 2560 นั้น กบข. เองได้วางแผนที่จะรับมือด้วยความระมัดระวังเช่นเดียวกัน เนื่องจากประเมินสถานการณ์แล้ว ยังคาดว่า เศรษฐกิจโลกจะยังไม่มั่นคงนัก โดยจีดีพีโลกจะโตในราว 3.1% และต้องจับตาดูหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นยุโรป อังกฤษ ที่ทำ Brexit การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้นักลงทุนมีความกังวลและเกิดความปั่นป่วนได้ นอกจากนี้ยังต้องจับตานวโน้มอัตราดอกเบี้ย ที่กำลังเข้าสู่ยุคแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น หลังจาก เฟดพืจารณาขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ส่วนดอกเบี้ยไทยแม้ว่า กนง.จะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย แต่ บอนด์ยิลด์ในท้องตลาดได้ขยับนำล่วงหน้าไปแล้ว

“ดังนั้นในปี 2560 ยังเป็นปีที่ต้องระวังอยู่ ในส่วนของ กบข.เองต้องมีการปรับตัวรองรับสถานการณ์ดังกล่าว มีการตัดผมเล็มผมกันบ้างเป็นระยะๆ และจะต้องปรับวิธีการสื่อสารกับสมาชิกให้เข้าใจด้วยภาษาง่ายๆ

กบข. วางกลยุทธ์การลงทุนในปี 2560 ให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน โดยจะติดตาม ประเมินผลและลงทุนอย่างระมัดระวังจากผลกระทบของแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ภาวะการไหลเข้าออกของเงินทุนระหว่างภูมิภาค รวมถึงการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิศาสตร์ทางการเมืองโลก”

สำหรับการวางแผนการบริหารจัดการในส่วนของพอร์ตการลงทุนสำหรับปี 2560 นั้น ยังคงเน้นการลงทุนระยะยาว และ การลงทุนในสินทรัพย์ที่เป็นทางเลือก

“กบข.จะไม่ไปเร็ว ในเรื่องของการลงทุน ซึ่งจะค่อยๆพิจารณาการลงทุน โยในส่วนของการขอขยายการลงทุนในต่างประเทศเพิ่มจาก 25%เป็น 30% ก็ยังไม่ได้ใส่เงินลงไปในส่วนนี้ ขณะที่ขอเพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในอสังหาฯ จาก 8% เป็น 12 % ก็จะค่อยๆดู”

นายสมบัติ กล่าวว่าในส่วนของตลาดหุ้น ที่เป็นที่สนใจกันมากนั้น กบข.มีความระมัดระวังตลอด โดยเฉพาะ ในส่วนที่ลงทุนในหุ้นต่างประเทศ ในปี 2560 กบข.จะเพิ่มการพิจารณามากขึ้น จากกระแสของฟันด์โฟลที่ปรับเปลี่ยนกลังจากที่ทรัมป์ชนะเลือกตั้งเป้นประธานาธิบดี ซึ่งอาจจะกระทบในส่วนที่ กบข.ไปลงทุนในหุ้นตลาดอีเมอร์จิงมาร์เก็ตเอาไว้ อาจจะต้องมีการปรับยุทธศาสตร์ ขณะที่การลงทุนในหุ้นประเทศพัฒนาแล้วให้ผลตอบแทนที่ดี โดยในอดีต กบข.ให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นไทย 12% ต่อมาเปลี่ยนนโยบายลดสัดส่วนเหลือ 7% และกระจายไปลงตลาดเกิดใหม่ แต่ตอนนี้ต้องมาพิจารณาปรับเปลี่ยน

“ในปี 2559 ณ 25 พฤศจิกายน กบข.มีผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นต่างประเทศในส่วนตลาดเกิดใหม่ 10% ในประเทศพัฒนาแล้ว 5 % ส่วนในหุ้นไทยได้ผลตอบแทนราว 16% ซึ่งปี 2560 เราจะต้องมีการปรับปรุงการลงทุนตามสถานการณ์เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด

ปีหน้า 2560 เป็นปีที่ยาก เมื่อเป็นเช่นนี้ เราก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ต้องทำงานให้หนักขึ้น เพื่อให้ได้ผลงานตามเป้าหมาย อย่างเช่นเรื่องเงินเฟื้อที่เริ่มมีแนวโน้มปรับขึ้นเราก็ต้องเอาชนะเงินเฟ้อให้ได้”

นอกจากนี้ นายสมบัติยังกล่าวว่า กบข.ได้มีการเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสมาชิกในปี 2560 ด้วย เพื่อให้มีการปรับกระบวนการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อรองรับการไหลของเงินทุนระหว่างภูมิภาค เสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการสร้างความเพียงพอให้กับเงินของสมาชิก เช่น ให้แผนสมดุลตามอายุ (Lifepath plan) เป็นแผนการลงทุนหลักแผนหนึ่งสำหรับสมาชิกเข้าใหม่ ให้สมาชิกสามารถออมเพิ่มได้มากกว่าร้อยละ 15

กบข. ยังเน้นการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการบริหารจัดการ เน้นการพัฒนาบุคคลากรตามแนวคิด “เก่ง ดี มีจิตบริการ” รวมถึงการทำกิจกรรมในวาระ กบข. ครบรอบ 20 ปี ในเดือนมีนาคม 2560 ด้วย

147 views
bottom of page