top of page
327304.jpg

จับความเคลื่อนไหว "พิชญ์ - เจ้าดอกมะลิ" หลังเทนเดอร์ออฟเฟอร์


สมชื่อ พิชญ์ โพธารามิก ทำเซอร์ไพรซ์ได้ตลอดๆ ... โดยเฉพาะล่าสุดที่ประกาศทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ รับซื้อหุ้น JAS ที่ราคาหุ้นละ 7.25 บาท และ JAS-W3 ที่หน่วยละ 3.68 บาท ด้วยวงเงินสูงถึง 4.25 หมื่นล้านบาท ยืนยันชัดเจนกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าไม่คิดจะถอดหุ้นนี้ออกจากกระดาน แน่ๆ ... ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่สงสัย ใคร? กินหัวกินหางกินหางกินกลางตลอดตัวจากการที่ราคาหุ้น JAS วิ่งหน้าตั้งสวนทางภาวะตลาดโดยรวมอย่างเหลือเชื่อก่อนหน้า 2 อาทิตย์ พร้อมกับการซื้อและคายหุ้นในกระดานซื้อขายล่วงหน้าคว้ากำไรไปตุนไว้ก่อน

หลังจากที่ พิชญ์ โพธารามิก แห่ง บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS สร้างปรากฏการณ์เซอร์ไพรซ์ ด้วยการประมูลใบอนุญาต 4G จาก กสทช. แล้วก็ตัดสินใจยกธงถอนตัวเอาดื้อๆ ทำเอาคนที่เข้าไปตะลุมบอนซื้อหุ้น JAS ตามกระแสข่าวดีที่ JASจะได้ใบอนุญาต 4G มาต่อยอดทำธุรกิจ ถึงกับอึ้งทึ่งไปตามๆกันและอดกังวลใจไม่ได้ว่า JAS จะโดนปรับเป็นเงินก้อนโต และอนาคตธุรกิจจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอนาคตราคาหุ้นในมือที่ตามเข้าไปซื้อด้วยข่าวการประมูลดังกล่าวอาจจะตกเรี่ยราด

แต่ราคา JAS ก็ถูกงัดขึ้นมาอีกครั้งจนได้ โดยเฉพาะตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นมา ที่ราคาหุ้น JAS มีการปรับขยับขึ้นแบบสวนกระแสสุดๆ อย่างที่รู้กันว่าในช่วงเวลาที่ว่าสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยชอกช้ำมาก หุ้นทั้งกระดานแดงเถือก ทั้งหุ้นบลูชิพ หุ้นเล็กหุ้นน้อย แถวสองแถวสาม ไม่มีใครยืนอยู่ได้ ด้วยดัชนีที่ปรับลดลงมากกว่า 150 จุด แต่หุ้น JAS ปรับขึ้นจาก 5.45 บาทขึ้นมาที่ 6.65 บาท(16 กย.) คิดเป็น 22%

หุ้นที่วิ่งขึ้นมาก่อนล่วงหน้า 10 กว่าวัน ประจวบเหมาะกันพอดี กับการสร้างเซอร์ไพรซ์อีกครั้ง สมชื่อ พิชญ์ ด้วยการออกมาประกาศล่าสุดในเช้าวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2559 ก่อนที่ตลาดหุ้นจะเปิดซื้อขาย ว่ามีความจำนงค์ที่จะซื้อหุ้น JAS จากผู้ถือหุ้นทั่วไป หรือที่เรียกว่าทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ที่ราคา 7.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาในกระดาน ต้องยกนิ้วให้ พิชญ์ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ยุติธรรมมาก เพราะเขาประกาศซื้อหุ้นในราคาที่สูงกว่าราคาในกระดานที่ปิดไว้เมื่อวันศุกร์ที่ 16 กันยายน แบบนี้ไม่ต้องสงสัย เมื่อตลาดเปิด และปลดเครื่องหมายพักการซื้อขายที่ขอไว้ 1 ชั่วโมง ราคาหุ้น JAS ในกระดานก็ยอมต้องวิ่งขึ้นต่อ เพราะคนอีกจำนวนไม่น้อยที่กระโจนเข้าใส่ ด้วยหวังว่าจะได้กำไรจากส่วนต่างราคาหุ้น ที่อย่างน้อยก็จะได้จากการขายหุ้นให้พิชญ์ วันจันทร์ที่ 19 หุ้น JAS ปรับขึ้นต่ออีก 8.30% ที่ 7.20 บาท และยังปรับขึ้นมาได้ถึง 7.30 บาทด้วยซ้ำไป

อย่างไรก็ตาม มีประเด็นที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ไม่สงสัยก็คือ ใครเป็นคนดันราคาหุ้นนี้ขึ้นมาก่อน และยังมีคนสังเกตเห็นว่า ราคาหุ้นซื้อขายล่วงหน้าที่เป็น สต็อคฟิวเจอร์ส ของหุ้น JAS มีการเข้ามาเก็บสะสมจำนวนมากมายมหาศาลสวนทางตลาดที่ลงในช่วง 2 อาทิตย์ก่อนหน้า และมีการขายออกในวันที่ 19 กันยายน ซึ่งคาดว่าโกยกำไรไปบานตะโก้

ประเด็นการซื้อหุ้นจากพิชญ์ ถือว่า จบข่าวไปเรียบร้อย แต่ที่ต้องตามคือนักธุรกิจอย่าง พิชญ์ โพธารมิก จะทำอะไรต่อจากนี้ ซึ่งผลนั้นย่อมส่งมาถึงราหุ้นเจ้าดอกมะลิ JAS แน่ๆ

การรับซื้อหุ้นคืนของ พิชญ์ ครั้งนี้ เป็นการรับซื้อจากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทก็เพิ่งประกาศรับซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นเมื่อ 13 มิถุนายน 2559 ในวงเงิน 6,000 ล้านบาท แต่คราวนั้นซื้อที่ราคา 5 บาท ต่อหุ้น จำนวนทั้งหมด 1,200 ล้านหุ้น คราวนี้ พิชญ์ รับซื้อหุ้นเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือครองเพื่อให้มีสิทธิในการบริหารมากขึ้น อย่างที่เขาให้เหตุผลกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จากที่ถืออยู่ในนามของเขา 1,844.05 ล้านหุ้น(25.84%) โดยจะซื้อหุ้นอีก 4,092 ล้านหุ้น ขณะที่ ถือ JAS-W3 ในมือ 553.94 ล้านหน่วย เท่ากับจะซื้ออีก 2,733 ล้านหน่วย ซึ่งทั้งหมดจะใช้เงินถึง 4.25 หมื่นล้านบาทในการซื้อหุ้นครั้งนี้ โดยมีแบงก์ไทยพาณิชย์ เป็นผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ และมีบริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ เป็นผู้ทำดีลรับซื้อขายให้

ทั้งนี้ ทันทีที่พิชญ์แสดงความประสงค์ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นอื่นๆ ดังกล่าว ก็มีข่าวแพลมมาแล้วว่า อาจมีการควบรวมกิจการ หรือการร่วมมือกับพันธมิตรทำธุรกิจบรอดแบรนด์ ซึ่งก็เคยมีข่าวมาตั้งแต่คราวประมูล 4G กระซ็นกระสายมาว่า จะมีการควบรวม JAS กับ DTAC บ้าง ควบรวมกับ ADVANC บ้าง เผ็นผลให้ราคาหุ้น DTAC และ ADVANC ขึ้นไปด้วยแรงข่าวนี้ด้วยในวันที่ 19-20 กันยายนที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน บล.บัวหลวง ให้ความเห็นว่า ถ้าจะมีดีล M&A จริง ความน่าจะเป็น จะตกอยู่กับ AIS มากกว่า

“การรวบหุ้นคืนของ ผู้บริหาร JAS ทำให้ตลาด คิดว่าจะมีการเตรียมการสำหรับการร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น AIS หรือ DTAC แต่ เราไม่คิดว่าจะเป็นการร่วมมือกับ DTAC อย่างทีมีกระแสข่าว เพราะถ้าอิงกับ การประชุมกับผู้บริหาร DTAC ครั้งล่าสุด ทางบริษัทยังคงยืนยันดำเนินธุรกิจมือถือในไทยต่อ แต่ไม่เน้นธุรกิจ Fixed line และ Broadband ซึ่งเป็นธุรกิจที่ DTAC ยังขาดอยู่ ตลาดจึงไปตีความว่า มีโอกาสที่ DTAC จะเติมเต็มธุรกิจที่ขาดอยู่ หรือ JAS อาจแลกหุ้นกับ DTAC เพื่อร่วมทำธุรกิจมือถือ

เราคาดว่าถ้าจะมีดีล M&A จริง ความน่าจะเป็น จะตกอยู่กับ AIS มากกว่า ซึ่งมีเงินพร้อมกว่า DTAC และปัจจุบันกำลังเร่งรุกธุรกิจบริการอินเตอร์เน็ต AIS Fibre ซึ่งหากได้ JAS มาร่วมจะได้ JASIF ที่เป็น Back-bone หลัก มาต่อยอดในระยะยาวด้วย

ตราบใดที่ยังมีกระแสแบบนี้อยู่ คาดว่าจะมีการเก็งกำไรหุ้น 3 ตัวนี้ต่อไป กลยุทธ์ แนะนำ เก็งกำไร เน้นไปที่ ADVANC แนวรับ 165.5 บาท ต้าน 175/180 บาท ส่วน DTAC เล่นตามกระแส แนวรับ 33.75 บ. ต้าน 39.5 บ. JAS โดนราคา Tender 7.25 บ. กดไว้คาดไม่มี Gap ให้เล่นมากแล้ว”

51 views
bottom of page