คุณธีรรัฐ จุฑาวรากุล กรรมการผู้จัดการบริษัท อินเตอร์โกลด์ โกลด์เทรด จำกัด กล่าวว่า ในปี 2563 ได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมากมาย แต่ขอสรุป 3 ประเด็นที่นักลงทุนควรเก็บไว้เป็นบทเรียนสำหรับผู้ต้องการลงทุนทอง โดยขอระบุไทม์ไลน์เหตุการณ์สำคัญๆในรอบปี 2563 ที่เกี่ยวข้องราคาทอง ดังนี้
3 มกราคม 2563
โดรนสหรัฐฯ สังหารผู้นำทหารอิหร่าน ราคาทองพุ่งขึ้นจาก 1,528 เหรีญสหรัฐต่อออนซ์ เป็น 1,552 เหรีญฯต่อออนซ์
8 มกราคม 2563
WHO เริ่มรายงานโควิด-19 ระบาด ราคาทองทำจุดสูงสุดของวัน ที่ 1,611 เหรียญฯต่อออนซ์ ก่อนปิดตัวลดลงที่ 1,556 เหรียญฯต่อออนซ์
11 มกราคม 2563
อิหร่านยิงเครื่องบินพาณิชย์ยูเครนตก ราคาทองขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 1,562 เหรียญฯต่อออนซ์
1 กุมภาพันธ์ 2563
อังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เกิดการเทขายทองทำกำไร หรือเรียกว่า sell on fact จากราคาเปิดตลาดที่ 1,593 เหรียญฯต่อออนซ์ มาปิดที่ 1,576 เหรียญฯต่อออนซ์
3 มีนาคม 2563
โควิด-19 กระจายไปทั่วโลก ราคาทองขยับขึ้นแรงจากราคาเปิด 1,588 เหรียญฯต่อออนซ์ ปิดที่ 1,640 เหรียญฯต่อออนซ์
12 มีนาคม 2563
ความกังวลจากการระบาดของโควิด-19 กระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก ทำหุ้นดิ่งหนักทั่วโลก อย่างตลาดหุ้นดาวโจนส์ดิ่งแรงสุดในประวัติศาสตร์ รวมถึงตลาดหุ้นไทยดัชนีร่วงลงแรงจนต้องใช้มาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์ หยุดการซื้อขายเป็นการชั่วคราวหลายรอบ เพื่อให้นักลงทุนหายตื่นตกใจ (แพนิก) ขณะที่ราคาทองก็ร่วงแรงเช่นกัน เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่า
20 มีนาคม 2563
รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ทั้งประเทศเนื่องจากการระบาดโควิด-19 ที่รุนแรงขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนกังวลปัญหาหนี้เสียจึงเทขายตราสารหนี้อย่างหนัก ส่งผลให้กองทุนตราสารหนี้ในประเทศทยอยปิดตัวลง ขณะที่ราคาทองยังลงหนักต่อเนื่อง
23 มีนาคม 2563
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศทำ QE ไม่จำกัดวงเงิน มีการพิมพ์เงินแบบไม่จำกัดเพื่ออุ้มตราสารหนี้และกระตุ้นเศรษฐกิจ ราคาทองจึงพุ่งขึ้นจาก 1,498 เหรียญฯต่อออนซ์ เป็น 1,554 เหรียญฯต่อออนซ์ หลังจากวันนี้เป็นต้นไป ราคาทองวิ่งขึ้นต่อเนื่อง
27 กรกฎาคม 2563
ลิเวอร์พูลได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ในรอบ 30 ปี วันเดียวกันที่ราคาทองทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ ที่ 1,940 เหรียญฯต่อออนซ์
6 สิงหาคม 2563
ราคาทองทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 2,063 เหรียญฯต่อออนซ์ วันเดียวกับเกิดเหตุระเบิดครั้งใหญ่กลางเมืองหลวงของเลบานอน ซึ่งยังเป็นที่กังขาว่าเหตุระเบิดจากสารเคมีเป็นอุบัติเหตุหรือจงใจเพื่อผลทางการเมือง
5 พฤศจิกายน 2563
นายโจ ไบเดน ได้คะแนนเสียงข้างมากเป็นว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ราคาทองพุ่งขึ้นจาก 1,900 เหรียญฯต่อออนซ์ เป็น 1,949
เหรียญฯ ต่อออนซ์
9 พฤศจิกายน 2563
ประกาศผลการทดสอบวัคซีนมีประสิทธิภาพสูง และจะได้ใช้จริงในเดือนธันวาคม 2563 กดดันราคาทองร่วงลงเหลือ 1,862 เหรียญฯต่อออนซ์ เหตุนักลงทุนโยกเงินไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงแทน
คุณธีรรัฐ ยัง กล่าวทิ้งท้ายว่า จากข่าวรอบปี 2563 ทั้งหมด แบ่งเป็น 3 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับราคาทอง ได้แก่
1. ข่าวความไม่สงบ เช่นเหตุระเบิดที่เลบานอน โดยพื้นฐานจะเป็นผลบวกต่อราคาทอง แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไร จึงขอให้สังเกตุว่าหากเห็นแนวโน้มความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นควรซื้อทองเก็บไว้ได้
2. เมื่อดัชนีหุ้นลงหนักมากๆจนถึงระดับที่กระทบตราสารหนี้ ควรต้องระวัง เพราะราคาทองจะลงหนักเช่นกัน "หุ้นลงแล้วทองต้องขึ้นเสมอไป สูตรนี้ใช้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว"
3. ข้อสุดท้าย คือเรื่องนโยบายการเงิน เมื่อไรก็ตามที่เฟดออกประกาศนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะยาว ทองจะปรับราคาขึ้นแรงเสมอ เพราะนโยบายการเงินจะไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
Comentarios