สถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทยที่ท่องเที่ยวภายในประเทศหดตัวลงอย่างมาก จากการที่หลายประเทศได้ดำเนินมาตรการห้ามประชาชนเดินทางเข้า-ออกประเทศ ความกังวลของนักท่องเที่ยว ต่อการระบาดของโรค COVID-19 รวมถึงการที่สายการบินจำนวนมากหยุดทำการบินชั่วคราวโดยเฉพาะในเดือนมีนาคมต่อเนื่องถึงไตรมาสที่ 2 ก่อนที่จำนวนนักท่องเที่ยว จะเริ่มฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ในช่วงที่เหลือของปี 2020 หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วโลกเริ่มคลี่คลายแต่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติตราบที่ยังไม่มีวัคซีน
จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติและไทยที่หดตัวลง ทำให้ EIC คาดว่าค่าห้องพักเฉลี่ย ต่อห้องพักที่ขายได้ (RevPAR) ของธุรกิจโรงแรมไทยจะลดลง 55-65% ในปี 2020 ซึ่งจะทำให้โรงแรมเกือบทุกแห่งประสบกับภาวะขาดทุนจากการดำเนินงาน
3 กลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับธุรกิจโรงแรมในภาวะที่จำนวนนักท่องเที่ยวหดตัวลงอย่างมาก ได้แก่
1) การสร้างรายได้และสภาพคล่องจากการบริการที่มีอยู่ในโรงแรม เช่น
· การลดค่าห้องพักลงอย่างมากเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยในช่วงก่อนที่โรค COVID-19 จะระบาดในไทย
· การให้บริการอาหารแบบสั่งกลับบ้านและบริการ food delivery
· การให้บริการห้องพักและบริการอื่น ๆ ที่จำเป็นแก่ประชาชนทั่วไปที่ต้องการแยกอยู่อาศัยจากครอบครัวเพื่อกักกันโรคโดยคิดค่าห้องพักเป็นรายสัปดาห์
· การให้บริการห้องพักแก่ผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่มีอาการไม่รุนแรงตามโครงการของกระทรวงสาธารณสุข
2) การลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น
· การปิดพื้นที่ให้บริการบางส่วนหรือหยุดให้บริการชั่วคราวเพื่อลดต้นทุนในการดำเนินงานต่าง ๆ
3) การชะลอค่าใช้จ่ายบางประเภทออกไป เช่น
· การยกเลิกการจ้างบริษัทที่ปรึกษาภายนอก
· การเจรจาขอยืดเวลาการผ่อนชำระสินเชื่อกับธนาคารพาณิชย์
นอกจากนี้ ธุรกิจโรงแรมที่มีการสำรองเงินทุนหรือสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อาจเร่งดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาโรงแรมในช่วงที่ผู้ใช้บริการมีจำนวนน้อย ซึ่งทำให้ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการปิดห้องพักหรือพื้นที่บางส่วนเพื่อปรับปรุงโรงแรมลดต่ำลงกว่าในสภาวะปกติ รวมถึงการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในช่วงหลังจากที่การระบาดของโรค COVID-19 บรรเทาความรุนแรงลงและจำนวนผู้เข้าพักเริ่มฟื้นตัวขึ้น
อ่านบทวิเคราะห์ได้ที่เว็บไซต์ EIC : https://www.scbeic.com/th/detail/product/6759
Comments