top of page
312345.jpg

แง้มแผนพัฒนาตลาดทุน FETCO

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย หรือ FETCO เปิดแผนการดำเนินงานปี 2563 เตรียมผลักดันแผนการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน พร้อมจัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมทำหน้าที่ Investor Relations เสริมสร้างความเชื่อมั่นการลงทุนของประเทศ รวมถึงสนับสนุนด้านบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงแผนการดำเนินงาน ปี 2563 กำหนดแผนงานต่อเนื่องในการผลักดันแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและแผนงานภาคตลาดทุน และกำหนดแผนปี 2563 ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน จัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ รวมถึงสนับสนุนด้านบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน


ในปี 2563 นี้ FETCO ภายใต้พันธกิจการเป็นตัวแทนภาคเอกชนเพื่อร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาตลาดทุนไทยรวมทั้งเป็นกลไกสำคัญในการร่วมขับเคลื่อนนโยบายระหว่างรัฐและเอกชน จะดำเนินการโดยมีแผนงาน 9 แผนงานหลัก ประกอบด้วย


1. ผลักดันการขยายฐานนักลงทุนในตลาดทุน

2. โครงการตลาดทุนพบภาครัฐ ร่วมกับกระทรวงการคลังทำหน้าที่ Investor Relations แก่นักลงทุนเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนของประเทศ

3. สนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน

4. สนับสนุนการจัดทำโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน

5. สนับสนุน Capital Market Digital Roadmap

6. ผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ (ESG Collective Supporting)

7. สนับสนุนการพัฒนาทักษะทางการเงิน (Financial Literacy)

8. เสนอความคิดเห็นและให้คำปรึกษาต่อภาครัฐเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทย และ

9. ติดตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยและแผนงานภาคตลาดทุนนโยบายการดำเนินงานของ FETCO จากความเห็นร่วมกันว่า


ตลาดทุนสามารถเพิ่มศักยภาพให้ภาคเศรษฐกิจโดยเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการขอความเห็นในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนไทยและเศรษฐกิจระดับชาติ ร่วมกับภาคธุรกิจพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวม และการจัดทำโครงการตลาดทุนพบภาครัฐ

ทำหน้าที่สนับสนุนในฐานะ Investor Relations ภาพรวมเศรษฐกิจประเทศ เพื่อการเข้าถึงนักวิเคราะห์ นักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างประเทศระยะยาว การผลักดันแผนงานด้านตลาดทุนดิจิทัลร่วมกัน รวมถึงการผลักดันร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้มีผลบังคับใช้ เช่น พรบ.ทรัสต์ เพื่อการจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคล เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการทรัพย์สินส่วนบุคคลและลดการนำทรัพย์สินออกไปบริหารนอกประเทศ พ.ร.บ.มหาชน เพื่ออำนวยความสะดวกในการดำเนินการธุรกิจ พรบ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ เพื่อจัดให้มีการออมภาคบังคับสำหรับแรงงานในระบบ การปรับปรุงกฎหมายที่ไม่สามารถลงทุนในตลาดทุนได้ เช่น สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น ให้สามารถลงทุนได้หลากหลายมากขึ้น

สนับสนุนการลงทุนในกองทุนเพื่อการออมระยะยาว (SSF) เพื่อให้นักลงทุนได้เข้าใจและเห็นความสำคัญของการลงทุนระยะยาวอย่างต่อเนื่อง การจัดทำแผนงานสนับสนุน SMEs และ Startups ให้เข้าถึงตลาดทุน การผลักดันความร่วมมือภาคตลาดทุนเพื่อความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนการ บูรณาการของภาครัฐในการทบทวนแผนงาน ทิศทางและกลุ่มเป้าหมายการพัฒนาทักษะด้านการเงินและการลงทุน

การร่วมเป็นองค์กรสนับสนุนในฐานะหน่วยงานที่มีสิทธิรับรองการเสนอโครงการของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) และการพิจารณาหาแนวทางสนับสนุนโครงการสร้างและพัฒนาบุคลากรรองรับภาคตลาดทุน


“ภาวะการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย และทิศทางการดำเนินการธุรกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางธุรกิจมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนระยะยาว ดังนั้นภาคตลาดทุนจำเป็นต้องพิจารณาเตรียมพร้อมและเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ โดยการมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องเพื่อพัฒนาตลาดทุนไทยให้เติบโตต่อเนื่องอย่างยั่งยืน มีเสถียรภาพ และมีประสิทธิภาพ การผลักดันและสนับสนุนส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตลาดทุนไทย สร้างมาตรฐานการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีระบบการบริหารจัดการที่โปร่งใส ยุติธรรม รวมทั้งมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม”

13 views
bottom of page