คอลลิเออร์สเผย โควิด-19 กดดันผู้ประกอบการลดราคาโละสต็อกคอนโดมิเนียม หวังล่อใจผู้บริโภคซื้อ ขณะที่ตลาดคอนโดมิเนียมใหม่ลดลง โดยเฉพาะไตรมาส 2 ในกรุงเทพฯ เปิดใหม่แค่ 5 โครงการ 1,260 ยูนิต คาดทั้งปีเปิดใหม่ 25,000 ยูนิต ต่ำสุดในรอบ 10 ปี
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ รองผู้อำนวยการ แผนกวิจัยและการสื่อสาร บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2563 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ยังแพร่ระบาดหนักในหลายประเทศทั่วโลก ถึงแม้ว่าการแพร่ระบาดในประเทศไทยมีท่าทีที่ดีขึ้น สถานการณ์ดังกล่าวยังคงส่งผลให้เกิดการชะลอตัวกำลังซื้อในภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมเป็นอย่างมาก แม้ว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะปรับลดความเข้มงวดในมาตรการดังกล่าวในบางข้อลง เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและกระตุ้นกำลังซื้อให้ตื่นตัวมากขึ้น ทั้งนี้ แผนกวิจัยฯ พบว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 ผู้ประกอบการส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการเปิดขายโครงการใหม่ลงหรือเลื่อนการเปิดตัวโครงการใหม่ในช่วงนี้ เน้นนำสต็อกสร้างเสร็จเหลือขายมาลดราคาเพื่อเป็นการตุนยอดโอนกรรมสิทธิ์และเพื่อการรับรู้รายได้ และพบว่าผู้ประกอบการบางรายมีการลดราคามากกว่า 30-40% เพื่อเป็นการระบายสต็อกคงค้างในตลาด
สำหรับภาพรวมของตลาดคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในกรุงเทพมหานครในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่เพียงแค่ 5 โครงการ 1,206 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นอุปทานเปิดขายใหม่ที่น้อยที่สุดในช่วง 10 ปี ด้วยมูลค่าการลงทุนเพียงแค่ 2,600 ล้านบาท ลดลงจากช่วงไตรมาสก่อนหน้าถึง 4,674 ยูนิต หรือคิดเป็น 79.5% ส่งผลให้อุปทานเปิดขายใหม่คอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานครในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ที่ผ่านมามีเพียงแค่ 7,086 ยูนิตเท่านั้น ซึ่งเท่ากับว่าลดลงจากในครึ่งแรกของปีก่อนหน้าถึง 11,499 ยูนิต หรือ 61.9% นอกจากนี้ยังพบว่า มูลค่าการลงทุนยังคงลดลงกว่า 13,620 ล้านบาท เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งคาดการณ์ว่าในปีนี้อุปทานเปิดตัวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาจปรับตัวลดลงเหลือเพียงแค่ประมาณไม่เกิน 25,000 ยูนิตเท่านั้น
Comments