top of page
379208.jpg

เคทีซีไตรมาส 1/2563 เติบโตรายได้และกำไร



เคทีซีไตรมาส 1/2563 เติบโตรายได้และกำไร

เร่งปรับกระบวนการทำงานทั้งองค์กร ออกมาตรการช่วยเหลือด้านสินเชื่อ

รับมือวิกฤติเศรษฐกิจและไวรัสโควิด-19


เคทีซีรายงานการดำเนินงานไตรมาส 1/2563 ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 กำไรสุทธิ 1,641 ล้านบาท จำนวนสมาชิกบัตรเครดิตและยอดลูกหนี้ขยายตัวดี ค่าใช้จ่ายทางการเงิน และหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจ เร่งวิเคราะห์ พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการในองค์กรทั้งระบบ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจมากที่สุด อีกทั้งสนับสนุนภาครัฐออกมาตรการผ่อนผันและแบ่งเบาภาระสมาชิกที่เดือดร้อนจากสถานการณ์ของไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก เพื่อดูแลรักษาคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อไว้ให้ดีที่สุดอย่างเต็มกำลัง

นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ภาพรวมของการดำเนินงานของเคทีซีในไตรมาสแรกถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี มีการเติบโตทั้งรายได้และผลกำไร รายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ขณะเดียวกันสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินและหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม รวมถึงปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในช่วง 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) ของปี 2563 ยังมีอัตราขยายตัว 10% ในขณะที่อุตสาหกรรมเติบโต 6.2%”

“อย่างไรก็ตาม เมื่อสถานการณ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ได้มีการแพร่ระบาดไปทั่วโลก จนกลายเป็นวิกฤติรุนแรงที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจเกือบทุกประเภท ต่อเนื่องมาถึงชีวิตความเป็นอยู่และภาคการใช้จ่ายของประชาชน และมีผลให้การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้และปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเคทีซีเริ่มได้รับผลกระทบตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เคทีซีได้ติดตามและประเมินผลกระทบของสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 และคาดว่าสถานการณ์และผลกระทบจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการบังคับใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) แล้วอย่างเต็มที่”

“ภารกิจของเคทีซีที่เราจะต้องคิดวิเคราะห์ให้ถ้วนถี่ในช่วงเวลานี้คือ การหากลยุทธ์ที่จะนำพาเคทีซีฝ่าวิกฤตินี้ไปอย่างไรให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด และจะเตรียมพร้อมรับมืออย่างไรหลังวิกฤติโควิด-19 เพราะโลกหลังจากนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป (New Normal) อีกทั้งจะเร่งวิเคราะห์ พัฒนาปรับปรุงกระบวนงานทั้งระบบ (End to End Process Improvement) ปรับลดความซ้ำซ้อนและซับซ้อน เสริมสร้างการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครอบคลุมทุกมิติ ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อทั้งบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลให้ดีที่สุด”

“บริษัทฯ ยังได้สนับสนุนภาครัฐในการออกมาตรการผ่อนผันช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามนโยบายของกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างเต็มที่ โดยปรับลดอัตราผ่อนชำระของบัตรเครดิตจากเดิม 10% เหลือ 5% ตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ส่วนลูกหนี้สินเชื่อบุคคล “เคทีซี พราว” (KTC PROUD) ปัจจุบันได้รับอัตราผ่อนชำระขั้นต่ำ 3% ซึ่งอยู่ในแนวทางการให้ความช่วยเหลือดังกล่าวอยู่แล้ว นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมจะออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมในวันที่ 20 เมษายน 2563 ที่จะถึงนี้อีกด้วย”

“สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วงไตรมาสแรก สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 ตามมาตรฐานบัญชีใหม่ TFRS 9 เคทีซีมีกำไรสุทธิ 1,641 ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ย (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) เท่ากับ 3,615 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รวม (NPL) 4.01% (ถ้าเป็นภายใต้มาตรฐานการรายงานทางการเงินเดิมจะเท่ากับ 1.21%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้และดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้การค้ารวม) เท่ากับ 82,102 ล้านบาท ฐานสมาชิกรวม 3.5 ล้านบัญชี (เพิ่มขึ้น 5.6%) แบ่งเป็นพอร์ตสมาชิกบัตรเครดิต 2,593,947 บัตร (เพิ่มขึ้น 10.4%) เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้บัตรเครดิตและดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้บัตรเครดิต)52,137 ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเท่ากับ 50,167 ล้านบาท เติบโต 2.2% NPL บัตรเครดิตตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 อยู่ที่ 3.44% พอร์ตสมาชิกสินเชื่อบุคคลเคทีซีเท่ากับ 926,729 บัญชี (ลดลง 6.0%) จากการปิดบัญชีที่ไม่เคลื่อนไหว เงินให้สินเชื่อแก่ลูกหนี้สินเชื่อบุคคลและดอกเบี้ยค้างรับรวม (ยอดลูกหนี้สินเชื่อบุคคล) 29,965 ล้านบาท NPL สินเชื่อบุคคลตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 อยู่ที่ 4.99%

“นอกจากนี้ ตามมาตรฐานใหม่ TFRS 9 บริษัทฯ ยังสามารถทำรายได้รวมเท่ากับ 5,669 ล้านบาท และมีรายได้ค่าธรรมเนียมเท่ากับ 1,183 ล้านบาท สำหรับค่าใช้จ่ายรวม (ไม่รวมภาษีเงินได้) อยู่ที่ 3,631 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน 1,929 ล้านบาท ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (หนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ) เท่ากับ 1,308 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงิน 394 ล้านบาท ตามลำดับ”

 

KTC Q1/2020 grew both in income and profits.

Getting up to speed in business operation adjustments, and announces debt relief measures to handle economic crisis and COVID-19 virus outbreak.


KTC reports its Q1/2020 business operations according to the new TFRS9 standard, announcing a net profit of 1.641 billion. Strong growth for credit card receivable, financial cost, and non-performing loans (NPL) were at a satisfactory rate. The firm is getting up to speed in analysing, developing, and improving its overall business operations to increase efficiency and respond to customers’ different needs for maximum satisfaction. The firm is also acting in accordance with the government by implementing a debt relief policy for cardmembers who are affected by the widespread COVID-19 virus outbreak in order to maintain and ensure high quality ports at full capacity.

Mr. Rathian Srimongkol, President & Chief Executive Officer, “KTC” or Krungthai Card Public Company Limited, states, “KTC’s overall operations in the first quarter is at a great level with growth in income and profit, while bad debt recovery at a satisfactory level. Simultaneously, KTC was able to maintain its financial expenses and NPL level at an appropriate level. Moreover, credit card spendings during the first two months (January-February) in 2020 are at a good level with a 10 percent growth rate compared to the 6.2 percent industry rate.”

“However, the new and widespread COVID-19 virus outbreak had worsened into a crisis that had affected almost all kinds of businesses including everyday living and consumer spendings, inevitably affecting KTC’s portfolio and credit card spending growth. KTC has been closely monitoring and assessing the affects of the COVID-19 virus and is expecting perceptible changes in the second quarter this year, which is also the same period where the Declaration of an Emergency Situation pursuant to the Emergency Decree on Public Administration in Emergency Situations is implemented at full force.”

“KTC’s current mission is to find a solution for the firm to go through this crisis with the least amount of impact, along with figure out ways to handle post COVID-19 as the world will not remain the same (New Normal). KTC will also get up to speed in analysing and performing end to end process improvement to adjust and remove redundancy and fortify its workplace performance for better efficiency. The firm will also respond to customers’ needs in all areas along with maintaining high quality portfolio at full capacity.”

“KTC continues to support the government by implementing a debt relief measure for cardmembers who are affected by the widespread COVID-19 virus outbreak, in accordance to the Ministry of Finance and Bank of Thailand’s policy. KTC adjusted its minimum payment rate from 10 percent to 5 percent from April 2020 onwards, while current “KTC PROUD” Revolving Loan members are receiving a minimum payment rate of 3 percent. Moreover, the firm will be announcing additional debt relief measures this upcoming April 20, 2020.”

“KTC’s turnover during the first quarter in accordance with the new TFRS 9 standard as of March 31, 2020, are as follows: KTC has a net profit of 1.641 billion, income from interest (including credit line usage fees) totalled 3.615 billion, NPL is at 4.01 percent (1.21 percent according to the previous reporting standard). Loans to customers and accrued interest receivables (Overall portfolio) totalled 82.102 billion, user database accounts numbered 3.5 million (5.6 percent boost), comprising of 2,593,947 credit cards (10.4 percent increase), with a Loans to credit card customers and accrued interest receivables (credit card receivables) of 52.137 billion, credit card spendings totalled 50.167 billion (2.2 percent growth). NPL for credit cards according to the new standard is at 3.44 percent. Personal loans numbered 926,729 accounts (6.0 percent decrease) due to purging inactive account. Total Loans to personal loans customers and accrued interest receivables (personal loans receivables) amounted to 29.965 billion and NPL for the personal loans business according to the new standard totalled 4.99 percent.

“For the first quarter of the year, According to the new TFRS 9 standard, the firm accumulated a net income of 5.669 billion. Meanwhile, profits from fees totalled 1.183 billion while overall expenses (excluding income tax) totalled 3.631 billion, divided into 1.929 billion in operation fees, 1.308 billion in Expected Credit Loss (bad debt and allowance for doubtful accounts), and 394 million in financial costs in ascending order.”

39 views

Comments


bottom of page