แสนสิริเผยทำเล “ลาดพร้าว-พหลโยธิน” ตลาดที่อยู่อาศัยยังโต หนุนความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มเฉลี่ย 17.7% ต่อปี ดันราคาที่ดินปรับตัว 12% ใกล้เคียงราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท ล่าสุดผนึก “บีทีเอส กรุ๊ป” ผุดโครงการร่วมทุน “เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค” มูลค่ากว่า 4,900 ล้านบาท พร้อมมั่นใจสิ้นปีนี้ยอดขายคอนโดฯเป็นไปตามเป้า 30,500 ล้านบาท
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมทำเลย่านลาดพร้าว-พหลโยธินนั้น มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และด้วยทำเลที่ตั้งมีจำนวนของอาคารสำนักงานจำนวนมาก จึงเกิดความต้องการซื้อเพื่อการอยู่อาศัยจริงของกลุ่มพนักงานออฟฟิศ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าความต้องการในที่อยู่อาศัยมีเพิ่มขึ้นเฉลี่ยสูงถึง 17.7% ต่อปี ขณะที่ราคาที่ดินมีแนวโน้มสูงขึ้นเฉลี่ย 12% หรือประมาณ 150,000-170,000 บาทต่อตารางเมตร โดยราคาที่ดินที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสในปัจจุบันจึงขยับเข้าใกล้ราคาที่ดินทำเลสุขุมวิท
“ทำเลห้าแยกลาดพร้าวนับเป็นจุดศูนย์กลางการคมนาคมหลายรูปแบบ ทั้งรถไฟฟ้า 2 สาย ได้แก่รถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีห้าแยกลาดพร้าว ซึ่งจะเริ่มเปิดให้บริการได้ในปลายปี 2562 นี้ และสถานีพหลโยธิน ใกล้ทางด่วนสายสำคัญ, สถานีขนส่งผู้โดยสารฯ และท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองที่สามารถเชื่อมต่อไปยังทุกจุดหมายที่ต้องการ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวมสถานศึกษาชั้นนำ ห้างสรรพสินค้าหลากหลายไลฟ์สไตล์ และสวนสาธารณะที่เปรียบเสมือนปอดของคนกรุงเทพฯ ขนาดใหญ่ถึง 3 แห่งเป็นต้น”
นายภูมิศักดิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ได้เตรียมเปิดตัวคอนโดมิเนียม เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค จำนวน 880 ยูนิต มูลค่า 4,900 ล้านบาท ในช่วงเวลาที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมมือพัฒนาโครงการภายใต้การร่วมทุนกับ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป ซึ่งจะเป็นความร่วมมือพัฒนาคอนโดมิเนียมแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนมาแล้วจำนวนรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 43,000 ล้านบาท ซึ่งหลายโครงการประสบความสำเร็จปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์ สำหรับโครงการ เดอะ ไลน์ พหลโยธิน พาร์ค พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม จำนวน 1 อาคาร พัฒนาบนพื้นที่กว่า 8 ไร่ โดยในเบื้องต้นจะพัฒนาในส่วนของอาคาร บี จำนวน 880 ยูนิต มูลค่า 4,900 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทเตรียมเปิดขายพรีเซลอย่างเป็นทางการ 17-18 พฤศจิกายนนี้ ในปี 2561 บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายคอนโดมิเนียมได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 30,500 ล้านบาท ในส่วนของยอดขายรวมของบริษัท ปัจจุบันมียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 43,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80% ของยอดขายรวมทั้งตั้งไว้อยู่ที่ 50,000 ล้านบาท