WHART รายงานนักลงทุนสถาบันจองซื้อหุ้นกู้ 4,200 ล้านบาทหมดเกลี้ยงไม่เหลือหลอ ส่งผลดีช่วยลดต้นทุนทางการเงิน ทำให้กองทรัสต์ มีความคล่องในการบริหารงานมากขึ้น ให้มั่นใจการรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สิน ในอัตรา 70 ต่อ 30 มีความเสี่ยงต่ำ
นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ หรือ WHAREM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับ บลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า หลังจากที่ WHART เปิดเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1 จำนวน 4,200 ล้านบาท ในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2561ที่ผ่านมา โดยมีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ ให้การตอบรับโดยการแสดงความจำนงการจองซื้อผ่าน ธนาคารกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์ ภัทร (ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้) กันล้นหลาม
หุ้นกู้ครั้งที่ 1 จำนวน 4,200 ล้านบาท แบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรก จำนวน 3,000 ล้านบาท มีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2.26 ต่อปีตลอดอายุหุ้นกู้ ตั้งแต่วันที่ออกหุ้นกู้ 30 มีนาคม 2561 ถึง 30 มีนาคม 2564 และชุที่ 2 จำนวน 1,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.39 ต่อปี ตั้งแต่ออกหุ้นกู้ 30 มีนาคม 2561 ถึง 30 มีนาคม 2568 เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ตามสัญญากู้ยืมเงิน หรือหนี้ที่ไม่ว่าจะเป็นหนี้เพื่อการ รีไฟแนนซ์หนี้ หรือเพื่อชำระหนี้เมื่อครบกำหนด และนำมาใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการออกหุ้นกู้และการชำระหนี้
“ประโยชน์ของการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ สามารถลดภาระอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยของกองทรัสต์ จาก 3.46% เป็น 2.96% รวมถึงยังสามารถลดต้นทุนทางการเงิน ของกอง ซึ่งจะทำให้กองทรัสต์ WHART มีความคล่องตัวในการบริหารงานมากขึ้น”
ทั้งนี้ ภายหลังจากที่กองทรัสต์ฯ นำเงินมาชำระหนี้เงินกู้ยืม และปลดหลักประกันหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวแล้ว กองทรัสต์ WHART จะมีทรัพย์สินที่ปลอดภาระผูกพัน ซึ่งสามารถนำไปเป็นหลักประกันในการจัดหาเงินทุนเพื่อการลงทุนของกองทรัสต์ WHART ในอนาคตได้ ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับการกำหนดสัดส่วนการกู้ยืมและการเพิ่มทุนในการลงทุนของกองทรัสต์ WHART ในอนาคต
นอกจากนี้ยังถือเป็นการลดความเสี่ยงของการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยในสภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยในการออกหุ้นกู้จะเป็นแบบคงที่ ในขณะที่ดอกเบี้ยตามสัญญากู้เป็นแบบลอยตัว
ปัจจุบันกองทรัสต์ มีทรัพย์สิน 20 โครงการ คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 972,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่สำคัญในธุรกิจโลจิสติกส์ของประเทศทั้ง 3 พื้นที่คือ 1. บริเวณถนนบางนา-ตราด 2. บริเวณ Eastern Economic area (จังหวัดชลบุรีและระยอง) 3. บริเวณตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร (จังหวัดอยุธยาและสระบุรี) ส่งผลให้เป็นการเพิ่มมิติในการแข่งขันให้กับกองทรัสต์ WHART เพิ่มขึ้น ทั้งยังเป็นการช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุนที่ดีขึ้น
“มั่นใจว่ากองทรัสต์ สามารถรักษาสัดส่วน Freehold ต่อ Leasehold ของทรัพย์สินอยู่ในอัตรา 70 ต่อ 30 ทำให้เป็นการลดความเสี่ยงของการลดมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคต”
ขณะเดียวกัน บริษัท ทริสเรทติ้ง ได้ประกาศจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันในวงเงินไม่เกิน 4,200 ล้านบาท ของทรัสต์ WHART ที่ระดับ “A” โดยระบุเหตุผลว่า การนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปชำระคืนเงินกู้ธนาคารบางส่วนนั้นเป็นการการันตีความน่าสนใจของหุ้นกู้ดังกล่าว จึงเป็นทำให้หุ้นกู้ถูกจองซื้อทั้งจำนวน