สงกรานต์เชียงใหม่เริ่มแล้วตั้งแต่ต้น เม.ย. แต่ไฮไลท์สุดคือ 13 เม.ย.กับขบวนอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ตระการตาด้วยขบวนช้างที่สวยที่สุด 5 เชือก พร้อมขบวนแห่ล้านนาดั้งเดิม นายกนครเชียงใหม่ย้ำ...จัดระเบียบคุมเข้มห้ามขาย ห้ามดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในพื้นที่จัดงานและพื้นที่สาธารณะโดยเด็ดขาด
นายทัศนัย บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวในรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” ที่จัดโดยกองบรรณาธิการ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงงานเทศกาลวันสงกรานต์ว่าถือเป็นงานที่จัดขึ้นกันทั่วประเทศ แม้แต่ประเทศเพื่อนบ้านไทยก็ยังมีการจัดงานเทศกาลสกรานต์ แต่ถ้าอยากสัมผัสถึงเทศกาลสงกรานต์แบบกลิ่นไทยล้านนาต้องมาที่เชียงใหม่เท่านั้น โดยงานสงกรานต์เชียงใหม่เริ่มมาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่จัดโดยวัดต่างๆ แต่ในส่วนของกิจกรรมหลักวันสงกรานต์จะอยู่ในช่วงของระหว่างวันที่ 13-15 เมษายน
สำหรับในช่วงเวลาสำคัญที่สุดของเทศกาลสงกรานต์เชียงใหม่นั้น นายทัศนัยกล่าวว่าคือเป็นวันที่ 13 เมษายน ที่จะมีพิธีเปิดในช่วงเช้า หลังจากนั้นช่วงบ่ายจะมีขบวนอัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญของเชียงใหม่คือพระพุทธสิหิงค์ไปยังย่านสันนคร ถนนท่าแพ ถนนราชดำเนิน ไปสิ้นสุดที่วัดพระสิงห์ นอกจากนั้น ยังมีพระพุทธรูปสำคัญทุกองค์ของเชียงใหม่มาให้นักท่องเที่ยวสักการะ
“ในปีนี้ทางเชียงใหม่พยายามจัดกิจกรรมแบบพิเศษขึ้นมา เพราะโจทย์ของเชียงใหม่ยากตรงที่ทุกคนจะถามว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้มีอะไรใหม่บ้าง แต่การจะมีกิจกรรมอะไรใหม่จะต้องควบคู่กับการอนุรักษ์ด้วย และในปีนี้เชียงใหม่จะนำช้างที่ได้รับการสนับสนุนจากสมาคมปางช้างโดยการคัดเลือกช้างที่สวยที่สุด 5 เชือกมาร่วมนำขบวนด้วย โดยมีการแต่งตัวแบบไทยล้านนา นับว่าน่าจะเป็นสิ่งที่แปลกตาแต่ก็ยังคงอนุรักษ์ประเพณีดั้งเดิมไว้ด้วย เพราะในอดีตเวลาคนล้านนาจะทำอะไรที่สำคัญ เช่น สร้างวัดวาอารามก็จะใช้ช้างเสี่ยงทายหาจุดที่จะสร้างวัดกัน ซึ่งปีนี้จะมีความแปลกใหม่ด้วยการนำเอาช้างมาร่วมขบวน และในวันที่ 14 เมษายนจะเป็นเรื่องของการขนทรายเข้าวัด โดยขบวนจะเริ่มตั้งแต่สะพานนวรัฐ ถนนท่าแพ และผ่านวัดสำคัญที่จะขนทรายเข้าวัดกัน ส่วนในวันที่ 15 เมษายนเป็นเรื่องของขบวนดำหัวผู้ว่าราชการเชียงใหม่ แต่นอกเหนือจากนี้ ตามวัดสำคัญๆอย่างวัดเกตุการามที่อยู่ในตัวเมืองชั้นในเก่า จะมีเจดีย์เก่าสูงประมาณ 4 ชั้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คนมาสรงฆ์พระกัน”
“นายทัศนัยกล่าวต่อด้วยว่า ผู้ที่มาร่วมงานประเพณีสงกรานต์เชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ขณะที่ตัวเมืองเชียงใหม่ในวันนี้ทันสมัยเติบโตพอสมควร แต่ในความเจริญยังมีเอกลักษณ์ มีความเป็นล้านนา เช่น เขตในเมืองเก่ามีการควบคุมอาคารไม่ให้สูงเกิน 12 เมตร รูปแบบอาคารที่สร้างจะต้องเป็นแนวล้านนา สีของอาคารต้องเป็นแนวเดียวกัน เวลาที่ดูแล้วจะไม่แปลกตา
“คือพยายามที่จะทำให้เมืองเจริญ แต่ยังคงรูปแบบที่เรียกว่ายังคงรากเหง้าไว้ วันนี้คนต่างชาติหรือคนจีนเข้ามาอยู่ในไทย ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ไม่ใช่เฉพาะของไทยแต่เป็นของโลก ประเด็นคือ คนจีนส่วนมากย้ายถิ่นฐานไปตามเมืองใหญ่ อย่างในอดีตคนจะย้ายไปอยู่ในพื้นที่ที่สะดวกมากกว่า ซึ่ง 10 ปีที่ผ่านมาคนมาอยู่ในเมืองใหญ่มากกว่าชนบทแล้วไม่ใช่เฉพาะที่เชียงใหม่แต่เป็นทั้งโลก...”
ส่วนการอยู่ร่วมกันระหว่างอนุรักษ์นิยม อนุรักษ์สิ่งโบราณ และ ประเพณีเก่ากับคนสมัยใหม่นั้น ขั้นแรกคงต้องใช้กฎระเบียบบังคับด้วย อย่างเขตเมืองเก่าจะใช้วิธีการคือใช้จิตสำนึกหรือความเหมาะสม แผนต่อไปที่จะทำคือในอนาคตพื้นที่เมืองชั้นในจะทำให้สอดคล้องกันด้วยระบบขนส่งมวลชนที่ค่อนข้างสมบูรณ์พอที่จะให้บริการได้ และจะห้ามรถบัสขนาดใหญ่ไม่ให้เข้ามาในเขตเมืองเก่า ซึ่งจะพยายามวางกติกาให้อยู่ด้วยกันแบบอนุรักษ์เมืองเดิมไว้ ส่วนภายในอาคารจะไม่แตะต้อง แต่อาจจะมีการพูดคุยกันว่าตึกอาคารควรเป็นแบบทรงล้านนา โดยภายในอาคารจะติดตั้งอินเทอร์เน็ตก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่”
“ทั้งนี้ นายทัศนัยได้กล่าวย้ำถึงการจัดระเบียบงานเทศกาลสงกรานต์ในปี 2561 นี้ ว่าทางเชียงใหม่ขอความร่วมมืองดขายและงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในพื้นที่จัดงานอย่างเข้มงวด เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยร่วมกัน
“คือดื่มไม่ได้ ขายไม่ได้ เพราะต้องเข้าใจว่าคนหมู่มากบางครั้งมีคนดื่มแอลกอฮอล์จนขาดสติ ถ้า 1-2 คนเมาก็อาจทำให้งานเสียหายได้ ทำให้คนที่มาเที่ยวงานลำบากไปด้วย ถือว่าเป็นการบังคับด้วยกฎหมาย ทุกคนต้องทำตามกฎระเบียบในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะที่ห้ามดื่มหรือขายแอลกอฮอล์ ซึ่งรอบคูเมืองที่เป็นพื้นที่หลักจะโดนบังคับด้วยกฎหมาย และถ้าเป็นไปได้อยากจะขอให้แต่งกายชุดพื้นเมืองแบบคนล้านนา แต่ถ้าไม่ได้จริงอยากจะขอร้องไม่ให้แต่งชุดที่วาบหวิว แม้ว่าไม่ผิดกฎหมายแต่ขอให้คำนึงถึงความเหมาะสม”