บริบทของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันมีความท้าทายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยทางด้านพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป มีความรู้เท่าทันสินค้าและบริการ โลกเทคโนโลยี และดิจิทัลกำลังเข้ามา Disrupt องค์กร ทำให้ “บุญรอดเทรดดิ้ง” ผู้จัดจำหน่ายและทำตลาดในเครือบุญรอดบริวเวอรี่ ต้องจัดทัพองค์กรครั้งใหญ่ พัฒนาบุคลากรเก่งเพื่อรับมือกับโลกอนาคต
“ภูริต ภิรมย์ภักดี” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2561 บริษัทได้มีการจัดทัพผลิตภัณฑ์ใหม่หันมาโฟกัสแบรนด์และสินค้าที่มีความแข็งแกร่ง มีศักยภาพและโอกาสเจริญเติบโตในระยะยาวมากขึ้น ที่สำคัญผลิตภัณฑ์แต่ละรายการจะต้องมีความสามารถในการทำกำไร ยืนหยัดในตลาดได้ด้วยตัวเอง
ทั้งนี้ จากการพิจารณาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การดูและของบริษัทหลายสิบแบรนด์พบว่า โปรดักส์ดาวรุ่ง ที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก ได้แก่ เบียร์ลีโอ น้ำดื่มสิงห์ โซดาสิงห์ ข้าวพันดี สาหร่ายมาชิตะ เป็นต้น และยังมีสินค้าที่บริษัทนำเข้ามาจำหน่ายและทำตลาดให้แบรนด์อื่นๆ ได้แก่ น้ำแร่ฟิจิ เบียร์โคโรน่า เป็นต้น
ความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว มีหลายด้าน เช่น เบียร์ลีโอ เป็นแบรนด์ที่อยู่ในใจของผู้บริโภค มีส่วนแบ่งทางการตลาด 55% เป็นเบอร์ 1 น้ำดื่มสิงห์ มีการเติบโต 10-15% อย่างต่อเนื่อง เป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภค(Top of mind)ที่มีคะแนนสูง โซดาสิงห์แบรนด์ผู้นำของตลาดโซดา และมีส่วนแบ่งทางตลาดประมาณ 97%
สำหรับการทำตลาดของผลิตภัณฑ์ต่างๆในปีนี้ บริษัทยังได้มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สื่อที่ให้ความสำคัญกับสื่อดิจิทัล ออนไลน์อย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายย้ายแพลตฟอร์มในการติดตามข้อมูลข่าวสารมาเป็นช่องทางดังกล่าวแทนสื่อหลักเดิมๆ ที่สำคัญการใช้สื่อโฆษณาผ่านโทรทัศน์เพียงอย่างเดียวไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป
ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภค ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของการบริโภคและการเปิดรับข่าวสาร การปรับเปลี่ยนองค์กร เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญ
นอกจากนี้สิ่งที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด ก็คือการพัฒนาบุคลากร ในฐานะที่เป็นสมาชิกครอบครัว ที่จะต้องทำหน้าที่นำพาบริษัทเติบโตไปในอนาคต ในปัจจุบัน บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง มีบุคลากรทำงานประมาณ 2,000 คน ประกอบด้วยคนที่ร่วมงานกับบริษัทมาเป็นระยะเวลานาน มีส่วนในการสร้างความสำเร็จให้กับองค์กรจนถึงทุกวันนี้ และสมาชิกใหม่ที่เข้ามาเสริมทัพ ช่วยกันนำพาบริษัทให้ก้าวไปข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม แนวทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าว คาดว่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมียอดขายจริญเติบโตขึ้นเป็น 1.2 แสนล้านบาท ภายในสิ้นปี 2561 จากปี 2559 มียอดขาย 1.18 แสนล้านบาท มีสัดส่วนยอดขายจากสินค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 80% กลุ่มสินค้านอนแอลกอฮอล์ 20% และบริษัทยังตั้งเป้าหมายให้กลุ่มเบียร์ มีส่วนแบ่งทางการตลาดเติบโตเป็น 65% จาก 62% น้ำดื่มสิงห์มีส่วนแบ่งทางการตลาด 23% จาก 20%