top of page
358556.jpg

ไทยพร้อมต้อนรับจีน...นักเที่ยวกำลังซื้อสูง


แจง...งานเร่งด่วน รมว.วีระศักดิ์ ยกเครื่องท่องเที่ยวไทยอย่างมีคุณภาพ ทันสมัย และเป็นระบบ ภารกิจแรกคือผ่าตัดโครงสร้างการทำงานให้ชัดเจน ยึดหลัก Put the right man on the right job ไม่ฝากผีฝากไข้งานท่องเที่ยวไว้กับหน่วยงานด้านกีฬาเหมือนแต่ก่อน ส่วนภารกิจที่สองคือยกระดับการท่องเที่ยวจากการเน้นเชิงปริมาณ มาเป็นการเพิ่มเชิงคุณภาพ ทั้งคุณภาพของการบริหารการจัดการที่ประสานเป็นหนึ่งเดียวของทุกภาคส่วนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเน้นการให้บริการที่สะดวก ปลอดภัย แก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งส่งเสริมแหล่งเที่ยวเมืองรองให้เป็นที่รู้จักและนิยมมากขึ้น เพื่อสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ และกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองที่มีจำนวนมาก พร้อมย้ำ...นโยบายท่องเที่ยวแนวใหม่ ต้องสร้างรอยยิ้มร่วมกัน ทั้งรอยยิ้มของไทยในฐานะเจ้าบ้าน และรอยยิ้มของนักท่องเที่ยวในฐานะแขกผู้มาเยือน

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงภารกิจสำคัญ 2 เรื่องในปี 2561 นี้ว่ามีวาระเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เรื่องแรกคือ การผ่าตัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาให้ทันสมัย

“ผ่านมากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาเป็นส่วนราชการเดียวในระดับกระทรวงในประเทศไทยที่เกิดมาโดยอุบัติเหตุ คือไม่ได้ตั้งใจให้เกิด เพราะรัฐบาลยุคนั้นอยากให้เกิดกระทรวงกีฬา แต่ขนาดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อมารวมกันจะไม่เพียงพอที่จะตั้งเป็นกระทรวง ก็เลยเอางานด้านการท่องเที่ยวเข้ามารวมเข้าไป เพื่อให้เป็นกองหรือเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ๆ จึงจะตั้งเป็นกระทรวงได้ จึงได้พบว่ารัฐบาลขณะนั้นได้เอางานด้านท่องเที่ยวที่มีขนาดใหญ่มากในประเทศไทยและมีความเป็นสากลสูงที่เกี่ยวข้องกับคนไทยจำนวนมาก เอาไปฝากไว้อยู่ที่กรมที่เขาดูแลเรื่องกีฬาคือกรมพละศึกษา ซึ่งกรมพละศึกษาก็ไม่ได้เรียกร้องขอตั้งกระทรวงด้วย เพราะกรมพลศึกษาสังกัดอยู่กับทางกระทรวงศึกษาธิการดีๆ แต่วันหนึ่งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ฝ่ายการเมืองกลับไปหั่นออกมา โดยไม่ถามกรมพละศึกษาเลย โดยอ้างเหตุผลเพราะถ้ากรมพละศึกษาไม่ออกมา ฝ่ายการเมืองก็จะไม่สามารถคลอดกระทรวงพลังงาน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมได้ แต่เมื่อออกมาแล้ว และตั้งเป็นกระทรวงได้ ก็นึกไม่ทันว่าแล้วจะมีใครมาทำงานด้านท่องเที่ยว จากที่มีคนทำด้านกีฬาแล้ว แต่ก็มีคนบอกว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยต้องรับหน้าที่นี้ไป แต่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยก็ไม่ใช่ข้าราชการ เขาเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจ ดังนั้น มาคราวนี้จึงต้องผ่าตัด”

สำหรับการผ่าตัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬานั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวว่าส่วนตัวถ้าเปรียบเป็นหมอ ก็ถือว่าเพิ่งเข้ามาทำงานเพียง 60 กว่าวัน จึงจะไม่ทำแบบปุบปับ

“ก็อย่าเพิ่งตั้งเตียงเร็วนัก แต่อยากให้รู้ว่ารอบนี้คงต้องผ่าตัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแน่ ดังนั้น ช่วยกรุณาทำความเข้าใจทั้งผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย จะได้เรียบร้อย และการผ่าตัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะได้เป็นไปตามขั้นตอนและราบรื่น เรื่องแรงต้านมีแน่ แต่เราก็ต้องช่วยกันดู ไม่ใช่เรื่องถูกต้องที่เราจะให้งานด้านการท่องเที่ยวไปวางเป็นงานฝากกับคนที่เขาเชี่ยวชาญเรื่องกีฬา เป็นครูพละ เป็นครูมวยไทย แล้วฝากให้เขาช่วยทำเรื่องท่องเที่ยว ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ สหรัฐอเมริกา ยุโรป อินเดีย ตรงนี้ต้องคิดด้วยว่าเราอยู่บนความยั่งยืนแล้วหรือยัง”

นอกจากนั้น นายวีระศักดิ์ ยังกล่าวถึงความจำเป็นของการผ่าตัดหรือปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาด้วยว่า อดีตที่ผ่านมาจะแยกหน้าที่ของการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการท่องเที่ยว ว่าการทำงานแตกต่างกันอย่างไร หน่วยงานไหนควรรับผิดชอบด้านไหน

“ในอดีตทุกฝ่ายแห่กันไปเป็นนางกวักช่วยกวักมือเชิญนักท่องเที่ยวกันใหญ่ แต่กลับไม่มีใครรับผิดชอบว่าใครจะมาเป็นคนซ่อมห้องน้ำ ใครจะเป็นคนมาทำทางลาดให้กับคนใช้วีลแชร์ ใครจะมาติดป้าย ใครจะมาติดคำเตือน แต่ตอนนี้ใครที่ทำงานเกี่ยวกับท่องเที่ยว เราก็จะเข้าไปร่วมทำงานด้วยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ไหนในประเทศไทย เราจะไปดูแลพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชน จะไปดูท่องเที่ยวเมืองรอง จะไปดูเรื่องการบริหารจัดการเรื่องความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เราจะไม่เป็นขบวนการเฉพาะแค่ไปแห่เป็นนางกวัก ตอนนี้คงไม่ได้ เพราะเราก็อยากได้นักท่องเที่ยวคุณภาพ ซึ่งต้องไปดูแลแล้วว่า รอยยิ้มของเจ้าบ้านกับนักท่องเที่ยวพอๆ กันหรือไม่ ในอดีตที่ผ่านมารอยยิ้มเจ้าบ้านเยอะ เพราะว่านักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก มาใช้จ่าย เจ้าบ้านก็ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ยิ้มไปยิ้มมาชักยิ้มไม่ค่อยออกเมื่อพบว่ามีเจ้าบ้านจำนวนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีใครไปเยี่ยมเขาเลย โดยเฉพาะเมืองรอง ดังนั้น รายได้การท่องเที่ยวของไทยเกือบ 20% ของจีดีพีอยู่ในอันดับ 3 ของโลก แต่พบว่าอีกหลายสถานที่ท่องเที่ยวในไทยไม่ได้เงินจากการท่องเที่ยวเลย ฉะนั้นก็ต้องพานักท่องเที่ยวต่างชาติไปเที่ยวเมืองรอง ในขณะเดียวกัน ถ้าเจ้าบ้านยิ้ม แต่นักท่องเที่ยวไม่ยิ้ม ตรงนี้ไม่ถูกแล้ว ขณะที่นักท่องเที่ยวยิ้มแต่เจ้าบ้านไม่ยิ้ม ก็มีปัญหาอีกเหมือนกัน ดังนั้น ก็ต้องบริหารให้ทั้งสองฟากยิ้มให้ออก”

ส่วนภารกิจเร่งด่วนเรื่องที่สองนั้น นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า คือการดูแลนักท่องเที่ยวทุกประเทศไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่ช่วงหลังมีการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเป็นจำนวนมาก ขณะที่โครงการไทยเที่ยวไทย ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 120 ล้านคนต่อปี จึงต้องใส่ใจในการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวอย่างเต็มที่

“อย่างเช่นเรื่องห้องน้ำเราไม่ได้สนใจห้องน้ำสวยหรือหรู แต่อยากได้ห้องน้ำสะอาด อย่างประธานาธิบดีของจีนยังลงมาเล่นเองในเรื่องห้องน้ำที่จีน เมื่อระดับผู้ใหญ่ขนาดนั้นลงมาเล่นเอง เราก็ต้องกล้าเล่น เนื่องจากมีความสำคัญในการที่จะรองรับนักท่องเที่ยวทั้งจากไทยและทั่วโลก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามาในปี 2561 นี้จำนวนมาก”

ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ยังกล่าวถึงการรับมือนักท่องเที่ยวจีนด้วยว่า เป็นสิ่งที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ เนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมากเดินทางท่องเที่ยวไปในแทบทุกประเทศ ซึ่งสำหรับประเทศไทยเรานั้นต้องทำความเข้าใจว่านักท่องเที่ยวจีนมีเงิน แต่อาจยังขาดประสบการณ์ในการท่องเที่ยว การดูแลตัวเอง ตลอดจนการใช้จ่ายในการท่องเที่ยว

“ปัจจุบันค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวจีนสูงกว่านักท่องเที่ยวยุโรปแล้วในหลายที่ แต่เขายังใช้เงินไปในสิ่งที่เขาไม่รู้หรอกว่าที่นั่นมีของดีอะไร ในขณะที่คนไทยหรือนักท่องเที่ยวทั่วโลก เวลาจะเดินทางไปไหนสามารถกูเกิลได้ แต่จีนไม่มีกูเกิล คนจีนจะใช้ระบบของเขา ดังนั้น เขาจะไม่เคยเห็นไม่เคยรู้ ฉะนั้นโลกของคนจีนสื่อสารกันจริง แต่เป็นการสื่อสารในข้อมูลชุดที่เขาผลิตกันขึ้นมาเอง โอกาสที่คนนอกจะไปผลิตข้อมูลให้คนจีนอ่าน ถือเป็นเรื่องยาก เหมือนที่คนไทยอ่านภาษาอังกฤษกันน้อย นั่นคือที่มา ที่เวลาคนไทยได้สัมผัสนักท่องเที่ยวจีน จะรู้สึกว่าเขามาจากอีกโลกหนึ่งหรือไม่ บางอย่างเราคิดว่าเขาน่าจะรู้อยู่แล้ว เช่นการใช้ห้องน้ำ ซึ่งเราก็ต้องเข้าใจเขาก่อนว่า ระบบของจีน เขาโตมาในชุดข้อมูลแบบนั้น และเขาไม่ได้เข้ากูเกิล”

นายวีระศักดิ์กล่าวต่อด้วยว่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันการประสานงานและการดูแลนักท่องเที่ยวจีนจะเป็นหน้าที่สำคัญของบริษัทนำเที่ยว เพราะคนจีนส่วนใหญ่ที่เดินทางเข้ามาในไทย นิยมใช้บริการบริษัทนำเที่ยว

“แต่ว่าขณะนี้เอง คนจีนก็พยายามเริ่มใช้มือถือของตัวเองพาตัวเองในการท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ก็ยังไม่รวดเร็วมากพอ เราจึงต้องพูดคุยกับบริษัทนำเที่ยวว่าเวลาที่พาคนจีนเข้ามา ช่วยเสนอแนะให้นักท่องเที่ยวจีนพิจารณาเมืองรองของไทยด้วย คือคนไทยรับทราบแล้วว่ามีนโยบายเที่ยวเมืองรอง แต่ข้อจำกัดการเที่ยวเมืองรอง คือคนส่วนใหญ่จะถามว่า เมืองรองมีอะไร มีชุดข้อมูลให้นักท่องเที่ยวหรือไม่ ถึงจะมีข้อมูลแล้วก็ต้องสร้างความคุ้นชินให้กับเขา เพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนเตรียมตัวและเตรียมพร้อม โดยในช่วงเทศกาลตรุษจีนและเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาในไทยเป็นจำนวนมาก ดังนั้น

1. ต้องแนะนำนักท่องเที่ยวจีนให้รู้จักสถานที่ใหม่ๆ 2. ต้องสนใจสร้างความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยว บางรายมาเที่ยวแค่ช่วงตรุษจีนครั้งเดียว ซึ่งจะต่างจากนักท่องเที่ยวจีนที่เที่ยวนอกช่วงเทศกาลตรุษจีน ที่เขาคุ้นเคยกับการเดินทางพอสมควร...

ปกตินักท่องเที่ยวจีนชอบมาเช่ารถจักรยานยนต์ใช้ในเมืองไทย ซึ่งการจราจรของจีนเป็นการจราจรทางซ้าย ส่วนไทยจราจรทางขวา ขณะที่จีนไม่มีจักรยานยนต์เหมือนไทย แต่มีจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่วิ่งอืดกว่าจักรยานยนต์บ้านเรา ก็ก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนได้ง่าย นอกจากนั้นคนจีนส่วนใหญ่ ไม่คุ้นกับการว่ายน้ำในพื้นที่เปิด ปกติคนจีนจะว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ และบางคนก็ไม่เคยดำน้ำดูปะการัง จึงอาจทำให้เกิดการสำลักน้ำ จนเกิดอาการหมดสติไปก็มี ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิตแก่นักท่องเที่ยวจีนเป็นจำนวนไม่น้อย ขณะที่นักท่องเที่ยวจากชาติอื่นไม่เป็นแบบนี้ ตรงนี้มาจากวัฒนธรรมที่ไม่คุ้นชิน เหมือนกันกับนักท่องเที่ยวไทยที่ไปเที่ยวภูเขาสูงๆ ไม่รู้จักอากาศบางเบาว่าเป็นอย่างไร ทั้งๆ ที่มัคคุเทศก์พยายามบอกถึงอันตรายแล้ว แต่คนไทยก็ไม่เข้าใจ แล้วก็ไปหน้ามืดแถวนั้น คือต่างคนต่างไม่คุ้นเวลาไปเที่ยวซึ่งกันและกัน ดังนั้น การดูแลต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ไม่ใช่แค่เอาส้ม 2 ลูกไปมอบเพื่อต้อนรับ แล้วที่เหลือปล่อยเขาไปว่ากันเอาเอง”

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า จากปัญหาต่างๆ ของนักท่องเที่ยวจีนดังกล่าว จึงได้มีสั่งการไปยังหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวที่มีหน้าที่ดูแลบริษัทนำเที่ยว ให้ส่งข้อความว่า ปี 2561 นี้นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาเที่ยวเมืองไทยเป็นจำนวนมาก เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

“ปีที่ผ่านๆ มา บริษัทนำเที่ยวมีความเป็นห่วงเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญที่มีการจับปรับ มีผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนมาเที่ยวกันไม่มาก แต่ปี 2561 นักท่องเที่ยวจีนอยากเดินทางมาไทยกันมาก ส่วนบริษัทนำเที่ยวก็ไม่กังวลสักเท่าไหร่แล้ว เนื่องจากมีความเข้าใจเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญมากขึ้น ดังนั้น ในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะเข้ามาไทยจำนวนมาก และจะเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ จากที่เห็นเพื่อนๆ คนจีนด้วยกันเดินทางเข้ามาไทยแล้วถ่ายรูปไปอวด ก็เลยอยากจะมาบ้าง เช่นอยากมาดำน้ำ อยากมาขี่จักรยานยนต์ ดังนั้น ก็ต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยให้เขา...

ส่วนอีกประเด็นก็คือ ปัจจุบันคนเริ่มรู้ว่ากระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยวจีนมีของมีค่าอยู่ข้างใน พวกมิจฉาชีพก็จะพุ่งเป้าไปที่เขา ซึ่งเราก็ต้องดูแลความปลอดภัยในเรื่องทรัพย์สินให้เขาด้วย ตรงนี้เป็นมิติใหม่เมื่อเวลาเราพูดเรื่องเหล่านี้”

นอนกจากนี้ นายวีระศักดิ์ยังกล่าวด้วยว่า ปีที่แล้วได้ร่วมต้อนรับและจับมือกับนักท่องเที่ยวคนที่ 35 ล้านที่เดินทางมาไทย ซึ่งเป็นสิถิติที่ไม่เคยมีมาก่อน ส่วนคนจีนก็กำลังทะลุ 10 ล้านคนแล้ว ดังนั้น การท่องเที่ยวของไทยควรลดการให้ความสำคัญในเชิงปริมาณ และหันมาเน้นการปรับปรุงเรื่องการความสะดวก เรื่องความสะอาด และเรื่องความปลอดภัย เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของการท่องเที่ยวที่มีความยั่งยืนแก่ผู้มาท่องเที่ยว

19 views
bottom of page