ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางเรือ-อากาศ ลุ้นสถานการณ์ฮึ่มฮั่มคาบสมุทรเกาหลี เพราะเบี้ยประกันภัยสงครามจะถูกยกเลิกทันทีภายใน 24 ชม. รวมถึงกรณีแซงก์ชั่น ประกันไม่คุ้มครองทุกกรณี
แหล่งข่าวในวงการประกันภัยรายหนึ่งให้ความเห็นถึงสถานการณ์ความไม่แน่นอนบริเวณคาบสมุทรเกาหลีว่าผู้ประกอบการเดินทางขนส่งสินค้าทั้งทางเรือและอากาศที่มีความจำเป็นจะต้องใช้เส้นทางผ่านละแวกนั้น บางส่วนเริ่มวิตกกังวลในกรณีถ้าสถานการณ์จะรุนแรง เพราะการคมนาคมเส้นทางบริเวณนั้นค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร โดยที่ส่วนใหญ่ยังไม่สามารถเปลี่ยนเส้นทางได้
“แต่ถ้าจะมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนเส้นทาง ก็ยอมที่จะอ้อมไปหาเส้นทางอื่น อาจทำให้ต้องมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่ม โดยเฉพาะอัตราเบี้ยประกันภัยสงครามที่กำหนดเงื่อนไขไว้ในความคุ้มครองที่ต้องซื้อเพิ่มกันอยู่แล้ว”
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าการประกันภัยที่คุ้มครองภัยสงคราม มี 3 ประเภท คือ ประกันภัยการขนส่งสินค้าทางทะเล การประกันภัยตัวเรือระหว่างประเทศและการประกันภัยเครื่องบิน แต่ทั้งหมดนี้ต้องเป็นการซื้อภัยเพิ่มเท่านั้น โดยถ้าเกิดเหตุการณ์สงครามขึ้นมา ผู้รับประกันภัยมีสิทธิ์แจ้งยกเลิกความคุ้มครองล่วงหน้าภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ถ้าผู้ประกอบการทางทะเล หรือทางอากาศมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางเข้าไปยัง war zone ด้วยเหตุผลที่ไม่อาจเลี่ยงได้ กรณีนี้สามารถแจ้งต่อบริษัทประกันภัย เพื่อขอซื้อความคุ้มครองได้ ทั้งๆที่ถูกแจ้งยกเลิก 24 ชั่วโมงไปแล้วก็ตาม ขึ้นอยู่ที่ผู้รับประกันภัยจะกำหนดเงื่อนไขเช่น ให้คุ้มครองพิเศษภายใน 72 ชั่วโมง แต่ถ้าปรากฎว่าเมื่อครบกำหนด 72 ชั่วโมงไปแล้ว เรือขนส่งสินค้ายังนำสินค้าขนถ่ายไปปลายทางไม่เสร็จ อาจต้องอยู่ต่ออีก 24 ชั่วโมง ก็ต้องเจรจากับบริษัทประกันภัยเพื่อขอซื้อภัยสงครามเพิ่มเติม ภายใต้อัตราเบี้ยประกันและเงื่อนไขที่เพิ่มขึ้น
“แต่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรับประกันภัยแล้ว เมื่อยกเลิกภายใน 24 ชั่วโมง เช่นเดียวกับกรณีมีประกาศแซงก์ชั่นของแต่ละประเทศ ประกันภัยจะไม่คุ้มครองอยู่แล้วทุกกรณี” แหล่งข่าวกล่าวและว่าตลาดประกันภัยสงครามเป็นตลาดเฉพาะ ไม่มีเพดานเบี้ยกำหนดตายตัว เพราะเป็นความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง ไม่สามารถคาดการณ์ระดับความรุนแรงได้ ส่วนใหญ่ประกันภัยจะไม่รับคุ้มครอง เว้นแต่จะตกลงเงื่อนข้อยกเว้นกันและผู้เอาประกันภัยยอมรับภาระเบี้ยที่สูงได้
Image: Pixabay