
แบงก์ซีไอเอ็มบีไทย หยุดขยายธุรกิจบัตรเครดิต ชี้อีเพย์เมนต์ภาครัฐ ทั้งการเตรียมใช้บัตรพร้อมเพย์ กระตุ้นใช้บัตรเดบิตด้วยการเพิ่มเครื่องรับบัตรทั่วประเทศ แถมจัดให้ลุ้นรางวัล ส่งผลกระทบคนใช้บัตรเครดิตลดลง ขณะเดียวกัน โมบาย เพย์เมนต์ เฟื่อง ทำให้ระบบชำระเงินมีหลากหลาย กดบทบาทบัตรเครดิตลง ยันยังรักษาฐานลูกค้าเก่า 5 หมื่นรายไม่ทอดทิ้ง
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายธุรกิจรายย่อย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ทบทวนการทำธุรกิจบัตรเครดิต ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2555 หลังจากภาครัฐได้โหมทำโครงการ National e-Payment ทั้งในส่วนของระบบการชำระเงิน พร้อมเพย์ (PromptPay) ที่ในระยะต่อไปจะมีการออกบัตรพร้อมเพย์เพื่อการใช้จ่ายได้เช่นเดียวกับบัตรเดบิต
นอกจากนี้ ภาครัฐยังได้ดำเนินการโครงการเพิ่มเครื่องรับชำระด้วยบัตร หรือเครื่อง EDC ที่ให้ 2 กลุ่มธนาคารพาณิชย์ดำเนินการติดตั้งทั่วประเทศอีก 5.6 แสนเครื่อง เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคชำระด้วยบัตรเดบิตของธนาคารต่างๆ ที่ในปัจจุบันยังมีการใช้บัตรเดบิตเพื่อการชำระค่าสินค้าและบริการน้อย เพื่อให้เป็นไปตามที่ภาครัฐมีนโยบายลดการใช้เงินสด หรือก้าวสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society)
ทั้งนี้ เมื่อภาครัฐกระตุ้นการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการจัดรายการให้ลุ้นรางวัลสำหรับผู้ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต และร้านค้าที่รับบัตร จะส่งผลให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตลดลง เนื่องจากผู้ถือบัตรเครดิตส่วนใหญ่ล้วนถือบัตรเดบิตด้วย และจะหันไปใช้บัตรเดบิตแทน เพราะมองว่าได้รับผลประโยชน์ดีกว่าบัตรเครดิต
ขณะเดียวกัน จากการที่สังคมได้หันมาใช้การชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ หรือ โมบาย เพย์เมนต์ เพิ่มมากขึ้น แทนการชำระเงินด้วยบัตรพลาสติก ทำให้รูปแบบการชำระเงินมีความหลากหลายยิ่งขึ้น ส่งผลกระทบต่อการชำระด้วยบัตรเครดิต เช่น ผู้บริโภคที่ใช้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลก็สามารถใช้โมบาย เพย์เมนต์ ในการชำระค่าสินค้าและบริการได้ ทำให้บทบาทของบัตรเครดิตลดลง
“ปัจจุบันเราเพียงมุ่งดูแลลูกค้าบัตรเครดิตรายเก่าที่มีอยู่ราว 5 หมื่นใบ มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรโดยรวมหลักพันล้านบาทต่อเดือน ไม่ได้เน้นเพิ่มจำนวนบัตรอีกแล้ว แต่ก็ยังคงธุรกิจบัตรเครดิตไว้เพื่อให้มีผลิตภัณฑ์รองรับลูกค้าอย่างครบวงจร” นายอดิศร กล่าว