
เร่งการท่าเรือพัฒนาที่ดินเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ เผยการบริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท ไม่ได้ตามเป้าแต่ผลตอบแทนได้ไม่ถึง 2% มูลค่าไม่เกิน 700 ล้านบาทต่อปี
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบนโยบายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือ กทท. เพิ่มรายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากพบว่าการบริหารสินทรัพย์ของการท่าเรือไม่เป็นไปตามเป้า ในขณะที่ กทท.มีสินทรัพย์มูลค่ากว่า 50,000 ล้านบาท แต่กลับพบว่าผลตอบแทนได้ไม่ถึง 2% หรือ มูลค่าไม่เกิน 700 ล้านบาทต่อปี จึงมอบนโยบายให้ กทท.เพิ่มผลตอบแทนในพื้นที่เชิงพาณิชย์เป็น 4-5% ภายในปี 2565 หรือประมาณ 2,800-3,000 ล้านบาท ซึ่งเป้าหมายดังกล่าวเพื่อให้มีผลตอบแทนเทียบเท่ากับองค์กรอื่นๆ เช่น กรมธนารักษ์ และสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์นั้น การท่าเรือสามารถเข้าร่วมด้วยได้ เนื่องจากการท่าเรือมีพื้นที่มีศักยภาพสามารถบริหารในเชิงพาณิชย์เพื่อสร้างรายได้ โดยพื้นที่ของการท่าเรือที่มีศักยภาพสามารถนำมาบริหารจัดการเพิ่มมูลค่าในสินทรัพย์ ประกอบด้วย พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่คลองเตย พื้นที่ในท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากนี้ให้องค์กรเน้นทำให้ กกท.มีความยั่งยืน โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารมากขึ้นเพื่อสอดคล้องกับยุคไทยแลนด์ 4.0 เนื่องจากในปัจจุบันการขนส่งสินค้าที่ท่าเรือให้บริการสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ที่ 8 ล้านตู้ต่อปี และมีการประเมินว่าในปี 2565 จะสามารถรองรับปริมาณตู้สินค้าได้ถึง 18 ล้านตู้ต่อปี