
“คอลลิเออร์ส” ชี้แนวโน้มคอมมูนิตี้มอลล์หดตัว หลังผู้ประกอบการทบทวนแผนลงทุน เผยโครงการเปิดตัวก่อนหน้าล้มเหลวมากกว่าประสบความสำเร็จ ขณะที่แนวโน้มพื้นที่ค้าปลีกในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ขยายตัวต่อเนื่อง ดันพื้นที่ค้าปลีกศูนย์การค้าขนาดใหญ่ขยายตัวสูง
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการจัดเก็บข้อมูลตลาดพื้นที่ค้าปลีกประจำปี 2559 พบว่า มีพื้นที่ค้าปลีกโดยรวมในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และโดยรอบอยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่ค้าปลีกเปิดให้บริการใหม่ในปี 2559 ประมาณ 130,380 ตารางเมตร เป็นพื้นที่คอมมูนิตี้มอลล์มากที่สุดประมาณ 85,380 ตารางเมตร รองลงมาเป็นสเปเชี่ยลตี้ สโตร์ ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 41,000 ตารางเมตร แม้ว่าคอมมูนิตี้มอลล์จะมีพื้นที่เปิดขายใหม่มากที่สุดในปีที่ผ่านมา แต่อัตราการเพิ่มขึ้นของพื้นที่ค้าปลีกในคอมมูนิตี้มอลล์ กลับมีปริมาณที่ลดลงจากปีก่อนหน้านี้แบบเห็นได้ชัด เนื่องจากมีหลายโครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ที่มีแผนจะพัฒนาคอมมูนิตี้มอลล์ เริ่มทบทวนแผนการพัฒนาโครงการใหม่
พื้นที่ค้าปลีกรวมในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่โดยรอบ ณ สิ้นปี 2559 อยู่ที่ประมาณ 7,537,820 ตารางเมตร โดยเป็นพื้นที่ของศูนย์การค้าประมาณ 58% จากพื้นที่ทั้งหมด เพราะศูนย์การค้ามีพื้นที่ขนาดใหญ่ และในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ศูนย์การค้าใหม่ๆ ที่เปิดให้บริการจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่รวมบริการ และร้านค้าที่สามารถรองรับคนทุกเพศทุกวัยไว้ในพื้นที่เดียวกัน ขนาดพื้นที่จึงใหญ่มาก คอมมูนิตี้มอลล์มีพื้นที่รวมมากเป็นลำดับที่สอง เพราะการขยายตัวที่มากอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จนมีพื้นที่รวมมากกว่าซูเปอร์สโตร์มอลล์ หรือไฮเปอร์มาร์เกต ที่มีโครงการใหม่น้อยมาก โดยโครงการค้าปลีกใหม่ที่กำลังก่อสร้าง และมีกำหนดแล้วเสร็จในช่วง 1-3 ปีข้างหน้าส่วนใหญ่เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่อยู่ชานเมือง หรือว่า เมืองชั้นนอก
ขณะที่คอมมูนิตี้มอลล์ลดลง โดยมีพื้นที่ค้าปลีกอีกมากกว่า 723,000 ตารางเมตร ที่กำลังก่อสร้าง และมีกำหนดสร้างเสร็จในช่วงปี 2560-2561 ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่มีรูปแบบของโครงการพื้นที่ค้าปลีกหลากหลายมีความพยายามในการขยาย หรือเพิ่มจำนวนสาขาโครงการค้าปลีกของตนเองในทุกรูปแบบโดยเฉพาะในกลุ่มของพื้นที่ค้าปลีกขนาดเล็ก เช่น ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อโดยรูปแบบที่เป็นที่นิยมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา คาดว่าจะได้รับความสนใจต่อไป คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก และร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันเพื่อรองรับกำลังซื้อของคนที่เดินทาง และคนในชุมชนโดยรอบ โดยสังเกตได้จากแต่ละผู้ให้บริการปั๊มน้ำมันจะมีพันธมิตร หรือว่าร่วมมือกับผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกในการเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก หรือร้านสะดวกซื้อในศูนย์บริการน้ำมันของตนเอง