Dec 27, 20222 min

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร : CEO of the Year 2022

CEO of the Year 2022

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร

ซ่อม สร้าง เสริม สานพลัง : EXIM BANK กล้า

พัฒนาเพื่อคนไทย ก้าวสู่โลกยุค Next Normal

1 เมษายน 2564

ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร ก้าวขึ้นกุมบังเหียน EXIM BANK ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ในตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ จากมติที่เป็นเอกฉันท์ของคณะกรรมการสรรหา ที่เล็งเห็นว่า ดร.รักษ์คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการบริหาร วางนโยบาย กำหนดทิศทางของ EXIM BANK เพื่อวางรากฐานและต่อยอดภารกิจของ EXIM BANK ในการขับเคลื่อนภาคส่งออก-นำเข้า ของไทยให้ก้าวสู่เวทีโลกอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน

ตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ผลงานของดร.รักษ์ ในฐานะ CEO ของ EXIM BANK เป็นที่ประจักษ์ในมิติที่หลากหลายและครบเครื่อง

ตั้งแต่การยกระดับปรับปรุง EXIM BANK ให้มีความพร้อมในการผลักดันช่วยเหลือให้ผู้ส่งออก-นำเข้าไทย ทั้งรายใหม่และรายเก่า ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ก้าวพ้นวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตโควิด ที่รุมเร้าอย่างหนักหนาสาหัส

เมื่อ CEO พร้อม ทีมงาน EXIM BANK จึงก้าวสู่การปฏิบัติตามภารกิจหลัก “ซ่อม สร้าง เสริม สานพลัง” ด้วยความ “กล้า” ของ EXIM BANK ในการพัฒนาเพื่อคนไทย ก้าวสู่โลกยุค Next Normal

ภารกิจ “ซ่อม สร้าง เสริม สานพลัง” คือการลงพื้นที่ดูแล ให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการที่ถูกพายุเศรษฐกิจกระหน่ำจนแทบล้มหายตายจากให้กลับมายืนหยัดอีกครั้งด้วยการให้กำลังใจ เติมความรู้ เติมทุน

รวมถึงการสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ สร้างรูปแบบการลงทุน การผลิตการตลาดแนวใหม่ ช่องทางการค้าขายบนโลกออนไลน์ เช่น ส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการหน้าใหม่ พัฒนาผู้ประกอบการ SME รายเล็ก จากการเป็น OEM หรือการรับจ้างผลิตสินค้าให้แบรนด์ต่างๆ ยกระดับเป็น OBM คือผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ตัวเองอย่างมีระบบและแบบแผน และก้าวเข้าสู่ระบบ Suppy Chain ของโลกได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน รวมทั้งการเปิดศูนย์บริการ EXIM Contact Center-ศูนย์บริการครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าระหว่างประเทศแก่ผู้ประกอบการ SME

ขณะเดียวกัน EXIM BANK ภายใต้การนำของ CEO อย่างดร.รักษ์ ยังผลักดันผู้ประกอบการไทยเข้าสู่เวทีโลกด้วยการบุกเปิดตลาดการค้าใหม่ๆ ทั้งตลาดรอบบ้านคือ CLMV ตลาดญี่ปุ่น ตลาดยุโรป ด้วยการเปลี่ยนแนวคิดจาก “คู่แข่ง” มาเป็น “คู่ค้าที่สำคัญ” โดยชูประเด็นการเป็นผู้ประกอบการสีเขียวตามกรอบ BCG โมเดลเศรษฐกิจใหม่-Bio-Circular-Green Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว

จากภารกิจหลัก “ซ่อม สร้าง เสริม สานพลัง” นำมาสู่บริการและสินเชื่อที่หลากหลายเพื่อเสริมแกร่งและเติมทุนให้ผู้ประกอบการ เช่นเครื่องมือปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน, เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงทางการค้าและการเมือง, สินเชื่อ Solar Orchestra Loan, สินเชื่อ EXIM Kill Bill by Biz Transformation, มาตรการ “2 เพิ่ม 3 ช่วย” สำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย, สินเชื่อบุคคลทำธุรกิจ-EXIM Personal Biz, บริการสินเชื่อจาก “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้” เช่นสินเชื่อผู้ส่งออกป้ายแดง สินเชื่อ EXIM Shield Financing ฯลฯ

นอกจากนั้น CEO อย่างดร.รักษ์ ยังให้ความสำคัญในภารกิจ “สานพลัง” ด้วยการจับมือผนึกกำลังกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในแง่มุมที่หลากหลาย เช่น การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการร่วมกับกรมการค้าต่างประเทศ สำนักงาน ปปง. ในการให้ความรู้ด้านต่างๆ ในการขยายธุรกิจไทยสู่ตลาดโลก, การจับมือกับ บสย. และสถาบันการเงิน 16 แห่งเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ใน

“โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะพิเศษ Soft Loan Extra”, ร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศในการส่งเสริมนวัตกรรมสินค้าเกษตรไทย จับคู่เจรจาธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของไทยในตลาดโลก, จับมือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ในการอบรมหลักสูตรครบวงจร Top X Executive Program ฯลฯ

จากการทำหน้าที่เป็น CEO ใน EXIM BANK ของดร.รักษ์ ภายใต้แนวคิด Beyond Banking-เป็นมากกว่าธนาคารตลอดเวลาที่ผ่านมาได้ผลิดอกออกผลชัดเจนในปี 2565 อาทิ

  • ช่วยให้ผู้ประกอบการไทยทุกระดับ ตั้งแต่ Start-up ไปจนถึงผู้ประกอบการทั่วไป สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางความไม่แน่นอนและปัจจัยท้าทายทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

  • เปิดประตูบานใหม่ให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปสู่ใน Supply Chain ของโลก โดยเฉพาะ Supply Chain ธุรกิจ BCG ของเวียดนาม คือการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานทดแทนอย่างจริงจัง ที่ปัจจุบันโครงการลงทุนของไทยในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK มีมูลค่ารวมกว่า 17,300 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่ง-ค้าปลีก

  • ยอดสินเชื่อระหว่างประเทศของ EXIM BANK ณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 สูงถึง 67,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,271 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยตลาดสินเชื่อที่ขยายตัวมากที่สุดคือ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers)

  • จับมือขยายความสัมพันธ์กับพันธมิตรสำคัญอย่างญี่ปุ่นทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการไทยในการขยายการค้าการลงทุนกับญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชีย

  • ผลประกอบการของ EXIM BANK ภายใต้การบริหารของดร.รักษ์ เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยพลิกจากขาดทุนสุทธิเกือบ 1,340 ล้านบาท มาเป็นกำไรสุทธิ 1,531 ล้านบาทในปี 2564 และประมาณการกำไรสุทธิของปี 2565 อยู่ที่ 1,400 ล้านบาท

  • จากการเติบโตและความแข็งแกร่งของ EXIM BANK ภายใต้การกุมบังเหียนของดร.รักษ์ สะท้อนภาพไปสู่การจัดอันดับเครดิตโดยสถาบันระดับโลกคือ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ที่คงอันดับเครดิตของ EXIM BANK ไว้ที่ AAA (tha) เป็นปีที่ 17 ติดต่อกัน ขณะที่ Moody’s Investors Service ประกาศอันดับเครดิตสากลสกุลเงินตราต่างประเทศของ EXIM BANK ที่ระดับ Baa1 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 14 ซึ่งตอกย้ำความน่าเชื่อถือ เสถียรภาพ สถานะทางการเงินของ EXIM BANK ว่ามั่นคง แข็งแกร่ง ตามมาตรฐานสากล

ทั้งหมดนี้เป็นความสำเร็จของ EXIM BANK เพียงบางส่วนที่นำมามัดรวมแบบย่อๆ จากผลงานและความสำเร็จอีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้ที่เป็นทั้งแนวหน้าและกองหลังของ EXIM BANK อย่าง CEO ที่ชื่อ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร คือแรงผลักสำคัญที่ทำให้ EXIM BANK ในรอบปี 2565 มีความโดดเด่นอย่างชัดเจน

จึงเป็นเหตุผลอันสมควรที่ ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร คือผู้ที่ได้รับตำแหน่ง CEO of the Year 2022 อย่างไม่มีข้อกังขา

290