ต้านผังเมืองอีอีซีล็อกถนนผ่าเมือง ภาคเอกชนสุดทนพัฒนาที่ดินชะงัก

ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์โวยผังเมืองอีอีซี มีลับลมคมใน ยึดเกณฑ์ผังกทม. เพื่อล็อกถนน 268 สาย ครอบคลุม 3 จังหวัดภาคตะวันออก ภาคเอกชนสุดทน ส่งหนังสือขอยกเลิก อ้างขีดแนวผ่าเมืองกระทบชุมชนทำให้การพัฒนาที่ดินชะงัก ที่ดินมูลค่าลด-แบงก์ไม่รับจำนอง

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ทำเลทอง 3 จังหวัดเขตพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ อีอีซี หลังผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ทราบว่า ผังเมืองอีอีซีมีลับลมคมใน โดยยึดรูปแบบผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร เพื่อล็อกที่ดินขีดแนวถนนตามผังเมือง ลงในแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ความกว้างเขตทาง ตั้งแต่ 10-60 เมตร จำนวน 268 สายทาง ซึ่งมีทั้งตัดถนนใหม่และขยายเขตทางเดิม สัดส่วน 50:50 ซึ่งภาคเห็นว่าเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจากโฉนดทุกแปลง หากอยู่ในข่ายโครงสร้างพื้นฐานรัฐ ต้องถูกสลักหลังเป็นทางสาธารณะ ไม่สามารถทำประโยชน์ได้ อีกทั้งยังรอนสิทธิ์ หากไม่ประกาศเวนคืนใช้ประโยชน์ในทันที

นายมณฑล สุดประเสริฐ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า การจัดทำผังเมืองอีอีซีเป็นแผนใหญ่ เนื่องจากต้องรองรับคนจำนวนมากเข้าพื้นที่ ซึ่งทางกรมไม่คิดเหมือนภาคเอกชน ขณะเดียวกัน การจัดทำสาธารณูปโภค ที่กำหนดรายละเอียดลงในประกาศ ผังอีอีซี ส่วนใหญ่ล้วนเป็นถนนเดิมที่กำหนดไว้ ตามผังเมืองของทั้ง 3 จังหวัด โดยกรมไม่ได้กำหนดขึ้นใหม่ ส่วนจะปรับออกหรือไม่ ต้องพิจารณาถึงความจำเป็นเหมาะสม เนื่องจากพื้นที่อีอีซีต้องรองรับการลงทุนมีคนเข้าพื้นที่จำนวนมาก หากไม่กันเขตทางไว้ ซึ่งการพัฒนาคงเต็มพื้นที่ แต่ทางกรมฯจะลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรับฟังเสียงสะท้อนประชาชน ในช่วง ขั้นตอนยกร่างผังเมืองรวม 3 จังหวัด 30 อำเภอ ที่จะบังคับใช้ แทนผังอีอีซี แต่ต้องสอดรับกับพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อีอีซี ซึ่งภาคเอกชนยังสามารถพัฒนาได้เพียง เว้นระยะถอนร่นให้ได้ตามขนาดความกว้างของถนนที่กำหนดไว้เพื่ออนาคตไม่ต้องมีปัญหาเวนคืนเสียงบประมาณรัฐ

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี กล่าวว่า ผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่ได้กังวล การกำหนดเขตทางตามผังอีอีซี ที่จะกระทบต่อการพัฒนา แต่เป็นห่วงบ้านเรือนประชาชนที่ตั้งมาก่อนหน้านี้ จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่มากกว่า โดยเฉพาะในเขตตัวอำเภอเมืองชลบุรี หนองมน บางพระ ฯลฯ ถนน 8-10 เมตร เมื่อมีแนวเขตทางพาดผ่าน ให้ขยาย 12-20 เมตรนั้น บ้านนับ 1,000 หลัง กระทบแน่นอนสำหรับข้อเสนอ ต้องการให้รัฐกำหนดเฉพาะเส้นทางเร่งด่วนที่ต้องเวนคืนไม่ควรล็อกแนวถนนในอนาคตทิ้งไว้โดยไม่แน่ใจว่าจะดำเนินการหรือไม่ ทำให้เสียโอกาส สูญเสียความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจมูลค่าที่ดินลดลงอีกด้วย ท่าทีมีการตรวจสอบเป็นแนวถนนนำเสนอมาตั้งแต่ก่อน อีสเทรินซีบอร์ดเฟสแรก กว่า 30 ปีก่อน ยุคนั้นชุมชนยังไม่หนาแน่น การตัดถนนไม่ผ่านชุมชน แม้อยู่ในแนวเส้นทางเจ้าของสามารถขายได้ พัฒนาได้จนกว่ารัฐจะออก พ.ร.ฏ.เวนคืนชดเชย แต่ตามประกาศอีอีซียุคนี้ไม่สามารถทำอะไรได้