May 11, 20191 min

โนเบิลปรับกลยุทธ์ใหม่ เติบโตแบบก้าวกระโดด

โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ฟุ้งผลประกอบการปี 2561 แข็งแกร่ง มั่นใจเติบโตแบบก้าวกระโดดตามแผนที่วางไว้ ส่วนกลยุทธ์ใหม่เน้นให้บรรลุเป้หมายต่างๆ โดยเฉพาะยอดขายรวมมากกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะ3ปีข้างหน้า

นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าผลประกอบการที่แข็งแกร่งเมื่อปี 2561 ประกอบกับแผนกลยุทธ์ 3 ปีจากทีมผู้บริหารชุดใหม่จะทำให้บริษัทบรรลุเป้าหมายที่สร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตามแผนที่วางไว้ ส่วนกลยุทธ์ใหม่ของบริษัทจะมุ่งเน้นให้บรรลุเป้าหมายสำคัญต่างๆไม่ว่าจะเป็นยอดขายรวมที่มากกว่า 30,000 ล้านบาท ตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้าและอัตราผลตอบแทนต่อหุ้นที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าเป็น 30% โดยจะยังคงรักษาอัตราส่วนของหนี้ต่อทุนสุทธิที่ 1.5 เท่า

ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายที่จะบรรลุผลสำเร็จทั้งหมดโดยการสร้างรายได้จากการขายโครงการที่อยู่อาศัยและโครงการเชิงพาณิชย์ที่บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการทั้ง 7 โครงการ และการปรับเพิ่มสัดส่วนของโครงการในเซกเมนต์ที่มีการเติบโตและความต้องการสูง อาทิ เซกเมนต์ที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมที่มีราคาขายต่อตารางเมตรอยู่ระหว่าง1แสนบาทถึง 1.5แสนบาทบาทต่อตารางเมตร รวมถึงการจัดการประสิทธิภาพของพอร์ทการลงทุนในที่ดินของบริษัทให้มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนในอัตราที่สูงขึ้นรวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างยอดขายในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้เพื่อสร้างรายได้ที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

นายแฟรงค์ เหลียง รองประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม กล่าวว่า บริษัทยังมีสินทรัพย์ที่สร้างเสร็จพร้อมเพื่อการขายและส่งมอบมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท และพื้นที่เชิงพาณิชย์มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าวมีเป็นสินทรัพย์ที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าราคาตลาดในปัจจุบัน และไม่มีหนี้สินผูกพันอยู่ การเร่งสร้างยอดรับรู้รายได้จากสินทรัพย์ที่เรามีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดได้ในทันที และสามารถสร้างอัตราผลกำไรสุทธิที่เป็นที่น่าพอใจให้กับบริษัท

ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทประสบความสำเร็จอย่างสูงในตลาดต่างประเทศ โดยมียอดจองในไตรมาสที่ 1 ทั้งสามเดือนเป็น 60% เทียบกับยอดจองทั้งปี 2561 เป็นผลทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของโนเบิลฯ เติบโตขึ้นมากจาก 8% ในปี 2561 เข้าสู่ระดับที่มากกว่า 28% ในไตรมาสนี้รวมทั้งเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำในตลาดต่างประเทศของบริษัท โนเบิลฯ อย่างเข้มแข็งซึ่งเป็นผลทำให้ยอดขายเพื่อรอรับรู้รายได้ของโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีอัตราส่วนเพิ่มขึ้นสูงกว่า 75%

0