Feb 8, 20191 min

ซิตี้ ยืนยันกระทิงยังอยู่ ให้น้ำหนักไปที่ตลาดเกิดใหม่

นักวิเคราะห์ซิตี้ เปิดเทรนด์ลงทุน ปี 62 แนะให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ในเอเชีย-ยุโรป หลังคาดการณ์ตลาดภาวะขากระทิง ยังคงอยู่ แม้จะเป็นช่วงปลาย นักลงทุนยังมีโอกาสทำกำไรจากการลงทุนแม้ตลาดหุ้นผันผวน ผลกำไรทั่วโลกโต 9.7%

ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย เปิดตัวพาร์ทเนอร์ใหม่ “ฟิเดลลิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล” ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนระดับโลก พร้อมรายงานการวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกปี 2562 ว่าเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวเล็กน้อย คือ จีดีพีอยู่ที่ 3.1% จากผลกระทบจากสถานการณ์โลก และความผันผวนตลอดปี

สำหรับภาพรวมตลาดการลงทุนปี 2562 แนะนำให้น้ำหนักการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ ภูมิภาคเอเชีย และยุโรป ไม่รวมสหราชอาณาจักร รวมถึงยังคงมีมุมมองบวกต่อหุ้นวัฎจักรในกลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มอุตสาหกรรมสุขภาพ และกลุ่มวัสดุการผลิต

นักวิเคราะห์ซิตี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิดในประเด็นสำคัญ อาทิ ความไม่แน่นอนด้านการเมืองในแต่ละภูมิภาค สงครามการค้า และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด นโยบายดอกเบี้ย และการปรับตัวของค่าเงินทั่วโลก

นายดอน จรรย์ศุภรินทร์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ ประเทศไทย กล่าวว่า นักวิเคราะห์ซิตี้ คาดเศรษฐกิจโลกปี 2562 ชะลอตัวเล็กน้อย ที่ 3.1% โดยยังคงเชื่อว่าวัฐจักรเศรษฐกิจยังคงเป็นขาขึ้นอยู่ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงปลายก็ตาม และคาดการณ์อัตราเติบโตของผลกำไรทั่วโลกในปี 2562 ที่ 9.7% ด้วยปัจจัยด้านบวกจากหลายภูมิภาคทั่วโลก ทั้งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุน รวมทั้งการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา อุปสงค์ภายในประเทศของภูมิภาคยุโรป ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และแผนนโยบายการคลังของประเทศจีน

ด้านตลาดเกิดใหม่มีแนวโน้มเติบโตอยู่ที่ 4.5% ในปี 2562 และ 4.6% ในปี 2563 ในขณะที่ตลาดพัฒนาแล้ว มีแนวโน้มชะลอตัวเล็กน้อย แต่ยังเติบโตอยู่ที่ 2.0% และ 1.7%

“ในด้านค่าเงินมีข้อมูลที่น่าสนใจคือ ค่าเงินดอลลาร์ กำลังมีแนวโน้มอ่อนตัวล ง ปัจจัยมาจากนโยบายกระตุ้นทางการเงินที่เริ่มลดลงในช่วงปลายการบริหารของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่วนแนวโน้มค่าบาทไทย มีโอกาสแข็งค่ากรอบการเคลื่อนไหว 32.70 – 33.00 บาทต่อดอลลาร์

สำหรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2562 คาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ Fed ยังคงปรับลดงบดุล และมีแนวโน้มขึ้นอัตราดอกเบี้ยช้าลง โดยจะมีการปรับตัวขึ้น 2 ครั้ง ส่วนธนาคารกลางยุโรป ECB และญี่ปุ่น BoJ ยังคงอัตราดอกเบี้ย ภายใต้นโยบายการเงินที่เข้มงวด”

นักวิเคราะห์ซิตี้ คาดว่าการลงทุนปี 2562 ยังคงมีความท้าทายสูง และแนะนำให้นักลงทุนเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ความไม่แน่นอนด้านการเมืองในแต่ละภูมิภาค สงครามการค้า และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังคงตึงเครียด ซึ่งแม้ว่าที่ผ่านมา ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวจะไม่ได้ก่อให้เกิดแรงเทขายในตลาดต่อเนื่อง แต่ก็คาดการณ์ว่าอัตราการลงทุนทั่วโลกมีแนวโน้มชะลอลง

“ในการลงทุน แนะนำให้กระจายการลงทุนไปในสินทรัพย์หลากหลายภูมิภาค โดยให้น้ำหนักการลงทุนไปที่ตราสารทุนในภูมิภาคตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในเอเชีย และยุโรป ไม่รวมสหราชอาณาจักร โดยกลุ่มหุ้นวัฏจักรที่มีมุมมองบวก ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยี กลุ่มสุขภาพ และกลุ่มวัสดุการผลิต”

นอกจากนี้ยังแนะนำการลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative investment) และกองทุนรวมผสม (Multi-Asset) เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอ ด้านตราสารหนี้ ซิตี้ให้น้ำหนักการลงทุนไปในตราสารหนี้เอกชนสหรัฐ ที่จัดอยู่ในระดับน่าลงทุน (US Investment Grade) และตราสารหนี้ไฮยิลด์สหรัฐ ที่ให้ผลตอบแทนสูง (High-Yield Bond)

นายวิลดอน โก Wholesale Director ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟิเดลิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า 5 กองทุนที่เปิดตัวทั้งหมด เป็นกองทุนรวมคุณภาพสูง ที่มีผลการดำเนินงานโดดเด่นในกลุ่มประเภทกองทุนเดียวกัน ซึ่งกลยุทธ์เหล่านี้ตรงกับทิศทางการลงทุนของซิตี้ในปี 2562 ได้แก่ 1. “Fidelity Funds - Global Dividend Fund” เน้นการลงทุนในตราสารทุนที่มีรายได้ดีทั่วโลก โดยเน้นหุ้นกลุ่มปันผลที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง 2. “Fidelity Funds - Emerging Markets Fund” เน้นการลงทุนในตราสารทุนของตลาดเกิดใหม่ ในภูมิภาคที่มีการเติบโต อาทิ ละตินอเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง 3. “Fidelity Funds - Asian High Yield Fund” เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไฮยิลด์ ในภูมิภาคเอเชีย 4. “Fidelity Funds - China High Yield Fund” เน้นลงทุนในตราสารหนี้ไฮยิลด์ ในประเทศจีน รวมถึงฮ่องกง ไต้หวัน และมาเก๊า 5. Fidelity Funds - Global Technology Fund เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มวัฏจักรเทคโนโลยีที่มีมูลค่าอยู่ในระดับน่าลงทุน

5