Nov 26, 20181 min

แสนสิริทุ่ม 3,000 ล้านบาท ซื้อหุ้นคืนเกือบ 1,500 ล้านหุ้น ย้ำพื้นฐานแกร่ง จ่ายปันผลสูง

บมจ.แสนสิริ ทุ่ม 3,000 ล้านบาท ลุยซื้อหุ้นคืน 1,486 ล้านหุ้น มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท ย้ำมั่นใจหุ้น SIRI ปันผลสูงถึง 50% Dividend Yield สูงกว่า 9% พื้นฐานแกร่งจากการก้าวสู่ปีแห่งการสร้างยอดขายสูงสุด เผยการซื้อหุ้นคืนส่งผลดีกับผู้ถือหุ้น รับผลตอบแทนสูงทั้ง ROE และ EPS พร้อมเงินปันผลที่สูงขึ้น ขณะที่หุ้น SIRI ราคาปิดตลาดล่าสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.31 บาท

นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารสายงานการเงินและสนับสนุนธุรกิจ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) (SIRI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการซื้อหุ้นคืน จำนวน 1,486 ล้านหุ้นวงเงินที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืน 3,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.07 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นประมาณ 10% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 11 ธันวาคม 2561 ถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2562 ซึ่งการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้มีผลทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากจำนวนหุ้นที่ลดลงจากการซื้อหุ้นคืน จากจำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free float)ณ วันที่คณะกรรมการกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่14 มีนาคม 2561 เท่ากับ 70.89% ของทุนชำระแล้วของบริษัท นอกจากนี้ยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend yield) มีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อพิจารณาจากการที่บริษัทจ่ายเงินปันผลเท่าเดิม ในขณะที่จำนวนหุ้นลดลง ซึ่งจะส่งผลให้เงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น ทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลตอบแทนต่อหุ้นสูงขึ้น เนื่องจากหุ้นที่บริษัทซื้อคืนไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผล และจะทำให้อัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นเช่นกัน

“การดำเนินการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ นับเป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจการดำเนินธุรกิจและสถานะทางการเงินที่มั่นคงของบริษัท รวมถึงจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น โดยฐานะทางการเงินล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2561บริษัทมีกำไรสะสมเท่ากับ 9,326.9 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทยังมีกำไรสะสมและมีนโยบายจ่ายปันผลสูงถึง 50% ของกำไรสุทธิ และยังสามารถจ่ายปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้น ซึ่งอัตราเงินปันผลตอบแทน ณ ปัจจุบัน (Dividend Yield) คิดเป็น 9.01% ซึ่งนับเป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง” นายวันจักร์ กล่าว

ทั้งนี้แสนสิริยังคงเดินหน้าสร้างยอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 34 ปี โดยล่าสุดบริษัทมียอดขาย 44,800 ล้านบาท คิดเป็นเกือบ 90 % จากเป้าหมายยอดขายที่มีการปรับเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี Presale Backlog ทั้งในส่วนของแสนสิริและบริษัทร่วมทุน ที่จะทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปในอีก 5 ปีข้างหน้า ถึง 60,000 ล้านบาท ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในระยะยาวได้เป็นอย่างดี

10