Oct 19, 20171 min

เครดิตบูโร สวนข่าวลือ...ลงทะเบียนโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ จะถูกแบล็กลิสต์ ไม่มีมูลความจริง

งานเข้า “เครดิตบูโร” อย่างจัง หลังรัฐแจกบัตรคนจน ถูกปล่อยข่าวลือทำคนรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แตกตื่นกลัวถูกตัดสินเชื่อ-ไร้เครดิต ไปกู้เงิน BANK-Nonbank ไม่ได้ “สุรพล โอภาสเสถียร” เปิดอกแจงไม่เกี่ยวข้องกับ “เครดิตบูโร” ทั้งสิ้น แถมในความเป็นจริงคนมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นผู้มีรายได้-ไม่ใช่คนไม่มีรายได้ สามารถไปกู้สถาบันการเงินได้สบายๆ จากฐานะการเงินมีรายได้ไม่ถึงแสนบาทต่อปี

นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) กล่าวผ่านรายการ “เซียนเศรษฐกิจ” จัดโดยทีมข่าวหนังสือพิมพ์ “ดอกเบี้ยธุรกิจ” ถึงเรื่องที่มีการปล่อยข่าวลือว่าคนที่ไปลงทะเบียนในโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ จะถูกแบล็กลิสต์จากเครดิตบูโรนั้น ไม่มีมูลความจริงเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น โดยเริ่มมาจากมีการเขียนลงในหน้าเฟสบุ๊ค สรุปใจความได้ว่าที่ไปลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย เพื่อรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถือเป็นคนไม่มีเครดิต จากนั้นก็มีคนมาแสดงความคิดเห็นต่อว่า ถ้าไปกู้ที่ไหนก็ไม่ได้ ผ่อนสินค้าก็ไม่ได้ และก็มีคนมาเขียนต่อในกลุ่มไลน์อีกว่า จะมีการส่งชื่อของคนเหล่านั้นที่ไปลงทะเบียน มาที่เครดิตบูโร แล้วก็จะไปขอสินเชื่อไม่ได้ แต่ที่ร้ายไปกว่านั้นคือ ใครที่มีสินเชื่อไว้เดิมจะถูกเรียกคืน ดูเหมือนจะเป็นกระบวนการพอสมควร แต่อาศัยช่องว่างของกฎหมาย คือมีการเขียนคนละท่อนสองท่อน

“กลับมาดูความเป็นจริง คนที่ไปลงทะเบียนทั้งหมด 11 ล้านคน ฐานข้อมูลชุดนั้นจะอยู่ที่กระทรวงการคลัง คือจะไม่มีส่วนใดๆ ส่งมาที่เครดิตบูโรเลย และกระทรวงการคลังก็เก็บไว้ของเขาเพื่อดูแลและใช้ในส่วนของกระทรวงการคลัง และหวังว่าปีนี้มีผู้มีรายได้น้อย 11 ล้านคน ปีหน้าถ้าปรับปรุงช่วยเหลือก็จะลดลงเหลือ 9 ล้านคนและลดลงตามลำดับในปีต่อๆ ไป ข้อสำคัญคือโครงการนี้ได้ผลตรงที่ว่า เป็นการโอนเงินเข้าบัตรโดยตรงไม่ผ่านใครเลย ทอนเงินไม่ได้ หายตกหล่นไม่ได้ วิ่งตรงไปคนนั้น และคนนั้นถูกสกรีน คัดออก จากเดิม 14 ล้านคนเหลือ 11 ล้านคน ก็เป็นโครงการที่ป้องกัน และใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ คนที่ไปแสดงความคิดเห็น ก็เลยตั้งคำถามในใจ ว่าทำใจไม่ได้หรือเปล่าที่คนเขากำลังจะช่วยคนจน เพราะนโยบายนี้กำลังจะได้ผล” นายสุรพลกล่าวและมองข่าวลือที่เกิดขึ้น ว่าในความเป็นจริงนั้น ทางเครดิตบูโรจะเข้าไปยุ่งไม่ได้ กฎหมายของเครดิตบูโรเขียนไว้ชัด ว่าห้ามไปยุ่งกับข้อมูลอื่นๆ ยกเว้นข้อมูลที่ได้มาจากแบงก์หรือสถาบันการเงินเท่านั้น พูดง่ายๆ คืออะไรที่ไม่ใช่ข้อมูลเครดิต ห้ามเครดิตบูโรไปยุ่ง ไปรับ ไปทำ เพราะหากไปทำ มีโทษติดคุก 3-5 ปี ปรับ 3-5 แสนบาท ดังนั้น ไม่มีใครไปเสี่ยงไปทำ และหน้าตาข้อมูลชุดนี้จะไม่เหมือนข้อมูลที่เครดิตบูโรได้รับจากทางสถาบันการเงินด้วย

“ข้อมูลที่เครดิตบูโรได้รับ จะไม่รู้ว่าใครถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มีแต่ข้อมูลว่านายคนนี้ ชื่อ นามสกุล มีบัญชีกี่บัญชี ที่แบงก์ไหนบ้าง และการชำระหนี้เป็นอย่างไร และไม่มีระบุอาชีพ เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่ระบุ และบอกว่าไปลงทะเบียนหรือไม่ก็ไม่มี ดังนั้น ก็ยังสามารถไปขอสินเชื่อต่างๆ ได้ อย่างไรก็ดี สิ่งที่พูดว่ารายได้น้อย แสดงว่ามีรายได้ ไม่ใช่ไม่มีรายได้ เพราะฉะนั้น ตราบใดที่มีรายได้ ก็สามารถกู้เงินได้ รายได้ปีหนึ่งไม่ถึงแสนบาท แปลว่าต่อเดือนก็มีรายได้ 8-9 พันบาท แน่นอนว่าถ้าจะไปขอสินเชื่อ ได้กำหนดไว้ที่ 1.5 หมื่นบาท ตรงนี้จะขอไม่ได้ แต่หากเป็นบัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล นาโนไฟแนนซ์ ฟิโกไฟแนนซ์ จะไม่เกี่ยว ผ่อนสินค้า 0% ก็จะไม่เกี่ยว คือขึ้นอยู่ว่าวันนั้น มีสภาพคล่องหรือไม่ ซึ่งรายได้ที่พูดกัน คือรายได้ในปีที่ผ่านมา หากจะกู้เงินจะเอารายได้ของปีนี้ และบางคนจะมีรายได้พิเศษระหว่างปีขึ้นมา ก็มีสิทธิ์จะขอกู้เงินได้”

นายสุรพล ยังเปิดเผยว่าเมื่อตอนที่ทางรัฐตรวจฐานะผู้มีรายได้น้อย ว่าจริงไม่จริงก็ ไม่ได้มาขอข้อมูลจากเครดิตบูโร ทางนั้นจะใช้ข้อมูลของหน่วยงานราชการเป็นตัวกำหนด ไม่มีใครมาขอข้อมูลจากเครดิตบูโร เพราะทำไม่ได้ตามกฎหมายใครที่จะมาใช้ข้อมูลของเครดิตบูโร ต้องใช้เพื่อการวิเคราะห์สินเชื่อ และออกบัตรเครดิต

“การมาถามว่าคนคนนี้มีสินเชื่อหรือไม่ มันไม่ใช่การวิเคราะห์สินเชื่อ ที่สำคัญคือคนที่มาถามไม่ใช่สถาบันการเงินไม่ใช่สมาชิกของเครดิตบูโร ตามกฎหมายเครดิตบูโรก็ให้ไม่ได้ โดยแบงก์ชาติจะมาตรวจเครดิตบูโรทุกปี สมมุติเอาไป 1 รายชื่อ ก็เจอ 1 กระทง เอาไป 2 รายชื่อ ก็โดน 2 กระทง แล้วใครจะไปเสี่ยง และระบบของเรา ใครไปแตะข้อมูล มันจะเก็บประวัติไว้ แล้วทางเครดิตบูโรเราก็ยังมีกระบวนการคือไปจ้างบรรดาผู้ตรวจสอบดีลอยท์ ไพรซ์วอเตอร์เฮ้าส์มาตรวจทุกปี แล้วก็ทำรายงานไป และพวกนั้นเขาจะยอมหรือ”

สำหรับโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ถือได้ว่าเป็นโครงการที่ดีนั้น นายสุรพลกล่าวว่า เราต้องยอมรับก่อนว่า บางท่านมีรายได้อาจไม่ประจำสม่ำเสมอ รับจ่ายเป็นเงินสด อาจจะด้วยขีดความสามารถท่านมีจำกัด บางท่านไปกู้หนี้นอกระบบ แล้วไปลงทะเบียน พอไปลงทะเบียน จะรู้ว่าท่านนี้กู้นอกระบบ เมื่อเขากล้าบอกว่ากู้นอกระบบ เราก็จะส่งธนาคารออมสิน และธกส. ซึ่งมีหน่วยงานแก้ไขเรื่องหนี้นอกระบบโดยตรงเข้าไปดูว่ามันพอจะทำอะไรได้บ้าง ที่จะให้เขาหลุดหนี้นอกระบบ ลักษณะที่ผ่านมาของเราก็คือว่า เราไม่รู้ชัดเจนว่าคนที่มีรายได้น้อย หน้าตาเป็นอย่างไร อยู่ตรงไหน สภาพเป็นอย่างไร

ปัจจุบันมีข้อมูลตรงนี้แล้ว คือเจอตัวกันแล้ว และตรงนี้เงินไม่รั่วไหล สมัยก่อนที่ได้ยินข่าว ตายไปแล้วมาลงทะเบียนได้อย่างไร หรือนึกว่าอยากจนขึ้นมาแล้วจนจริงหรือไม่ แต่รอบนี้เขากรองแล้วกรองอีก

“หากใครมีอะไร หรืออยากสอบถามเครดิตบูโรให้ติดต่อได้ที่โทร. 0-2643-1250 สิ่งที่เครดิตบูโรทำคือออกรายการวิทยุ โทรทัศน์ แล้วจัดทำข้อมูลส่งไปในห้องกรุ๊ปไลน์ต่างๆ ตามเครือข่ายของเครดิตบูโร ซึ่งข้อความที่ส่งกันในกรุ๊ปไลน์ ให้สังเกต ไม่มีแหล่งที่มา ไม่บอกว่าเป็นของใคร อยู่ดีๆ ก็เขียนต้นลงท้าย คำถามคือ เราเชื่อหรือไม่ ดังนั้น ก็ควรพิจารณาข้อความที่ส่งกันในไลน์ อย่าไปหลงเชื่อกันง่ายๆ โดยเฉพาะที่ไม่มีแหล่งที่มา”

140